ทำไมควรต้องใช้โรงงาน One Stop Service ในการทำแบรนด์

     ทำไมควรต้องใช้โรงงาน One Stop Service ในการทำแบรนด์ คำถามนี้สามารถหาคำตอบง่ายมาก ก็เปรียบเหมือนเราไปเดินตลาดสดเพื่อหาวัตถุดิบในการทำอาหารรับประทาน แล้วในร้านนั้นมีทุกอย่าง ครบจบ ให้คุณเลยในที่เดียว ไม่ต้องเดินไปต่อร้านอื่น ทำให้คุณประหยัดเวลาอีกด้วย มันก็ย่อมดีกว่าใช่รึเปล่าล่ะ? ดังนั้นโรงงาน One Stop Service ก็เช่นเดียวกัน

     องค์ประกอบของการทำแบรนด์ มีอะไรบ้าง

     องค์ประกอบของการทำแบรนด์นั้นมีเยอะกว่าที่คุณคิดอย่างมาก เพราะมันจะมีเรื่องของรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ที่คุณต้องมาดูและตัดสินใจอีกที ดังต่อไปนี้

     รูปแบบเสื้อ

     กำหนดรูปแบบเสื้อก่อนว่าต้องการเสื้อแบบไหน เช่น เสื้อยืด เสื้อโอเวอร์ไซส์ เสื้อโปโล เสื้อเชิ้ต เสื้อกล้าม หรือเสื้อครอปใดใดก็ตาม หลังจากกำหนดรูปแบบเสื้อที่ต้องการได้แล้ว ก็ต้องมาดูเรื่องของแพทเทิร์น ว่าต้องการแพทเทิร์นตามท้องตลาดหรือต้องแพทเทิร์นสั่งตัดใหม่พิเศษ ไปจนถึงเรื่องของเนื้อผ้า ว่าต้องการแบบไหน Cotton 100% ไหม หรือว่าแบบผสม Polyester ดีกว่าผ้าจะได้ไม่มีการหดตัวจนเกินไป เพราะในเรื่องของเนื้อผ้านั้นยังมีผลถึงสีของเสื้ออีกตัว เนื่องจากผ้าแต่ละชนิดก็จะมีเฉดสีที่พิเศษแตกต่างกันออกไป

     ลวดลายของเสื้อ

     หากใครที่มองแบบมินิมอล (Minimal) เรียบๆ ไม่ต้องการลวดลายอะไร เป็นเสื้อเปล่าที่ใส่สบายตา ก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ลวดลายของเสื้อที่ออกแบบนั้นสามารถบ่งชี้ถึงเทคนิคงานสกรีนได้ เช่น ถ้าลายของคุณไม่ได้มีไฟล์ PS (Photoshop) หรือ AI (Adobe illustrator) เป็นเพียงรูปภาพนามสกุล JPG หรือ PNG ก็จะเหมาะกับเทคนิคแบบ DFT หรือที่เรียกว่า Digital Flim Transfer เป็นการปริ้นท์รูปแล้วทำการรีดร้อนลงบนเสื้อโดยตรง ข้อดีก็คือ เราสามารถใช้สีเท่าไหร่ก็ได้ เป็นเทคนิคที่เหมาะกับการมีสีสันเยอะ ในทางกลับกันหากเป็นเทคนิคสกรีน ก็จะมีเทคนิคอีกหลากหลายให้เลือก หากใครชอบเท็กซ์เจอร์สัมผัสแบบปกติทั่วๆ ไป ก็จะเป็นแนวสกรีนจมหรือสียาง แต่ถ้าชอบแบบพิเศษหน่อยลายสกรีนนูนๆ พวกสกรีนนูนหรือสกรีนไฮเดนก็จะตอบโจทย์ได้ดี ไปจนถึงสกรีนเรืองแสง หรือสะท้อนแสงแล้วแต่โรงงานนั้นๆ

     ป้ายแท็ก

     ป้ายแท็กจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือป้ายแท็กลาเบลตรงคอเสื้อ สามารถเลือกได้ทั้งป้ายทอ แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถเลือกเป็นสกรีนแท็กที่หลังคอก็ได้ เป็นวิธีที่ปัจจุบันนิยมไม่น้อยเลย ในส่วนที่สองก็คือแท็กกระดาษ ที่แบรนด์ที่ต้องการยกระดับอัพคลาสให้ดูพรีเมี่ยมขึ้นมักจะทำกัน มักจะใช้เป็นกระดาษแข็งพิมพ์ลายแบรนด์ทับพร้อมกับสโลแกนลงไป

     แพ็คเกจจิ้ง

     บางแบรนด์อาจใส่แค่ถุงใสปกติ บางแบรนด์อาจสกรีนแบรนด์ลงบนถุงใส หรือหากอยากให้ดูมีอะไรก็มักจะใช้เป็นถุงซิปล็อคเหมาะกับการใช้ซ้ำได้ ซึ่งตรงส่วนนี้ก็นับว่าสำคัญไม่น้อย เพราะเมื่อสินค้าอย่างเสื้อของคุณถูกบรรจุภัณฑ์ลงในถุง พับดูดีเรียบร้อย ก็จะช่วยให้ตอนวางเรียงน่าหยิบจับมาซื้อขาย

     การขาย และการวางแผนโปรโมทตีตลาด

     นับว่าเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่คนทำแบรนด์ต้องคำนึงถึงส่วนนี้ด้วย ตั้งกลุ่มเป้าหมายว่าอยากได้ลูกค้าเพศไหน ชาย หญิง วัยไหน วัยรุ่น วัยกลางคน เพราะพอเราได้กลุ่มเป้าหมาย การเลือกเจาะตลาดมันก็จะสามารถตีวงแคบขึ้นได้ไปจนถึงเรื่องของจุดตั้งร้านขายหรือโลเคชั่น หากไม่อยากเสียตรงจุดนี้ก็อาจเลือกตีตลาดโลกออนไลน์ก่อนก็ได้ ตอนนี้มีหลายแพทฟอร์มมากมายให้เลือก ทั้ง Facebook, Line official, Instagram และแพทฟอร์มน้องใหม่มาแรงอย่าง Tiktok

     พอเห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะเริ่มเครียดหรือกุมขมับว่าทำไมองค์ประกอบมันถึงเยอะขนาดนี้กันนะ จะดีกว่าไหมถ้าเรื่องพวกนี้จะโดนตัดทอนไปเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปแบบเสื้อ, เทคนิคสกรีนลวดลายของเสื้อ, ป้ายแท็ก และแพ็คเกจจิ้ง เปลี่ยนให้โรงงานที่เป็น One Stop Service แบบ ธน พลัส 153 ได้จัดการให้ ทางเรามีครบจบให้คุณได้ เนื้อผ้ามากมายให้เลือกสรร เทคนิคลายสกรีนให้มาสัมผัส รวมทั้งแอดมินและเซลที่มากประสบการณ์พร้อมให้คำแนะนำโดยตรง ทีนี้สิ่งที่คุณต้องทำก็เหลือแค่การวางแผนโปรโมทตีตลาดเท่านั้น

     พบกับ TNP บอกต่อ EP.8 ในบทความถัดไปว่าจะเป็นเรื่องน่ารู้อะไรต่อ สำหรับบทความนี้ สวัสดีค่ะ : )