กระเป๋าสตางค์ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเรา
กระเป๋าสตางค์หรือกระเป๋าตังค์นั้นไม่ใช่แค่ที่เก็บเงิน แต่ถือเป็นไอเท็มติดตัวที่บอกเล่าเรื่องราวไลฟ์สไตล์และมุมมองทางการเงินของคุณได้ด้วย การเลือกกระเป๋าสตางค์ที่ใช่ ไม่เพียงทำให้การใช้จ่ายเป็นระเบียบ แต่ยังสะท้อนตัวตนและเพิ่มความมั่นใจให้คุณในทุกๆ วัน ลองมาดูกันว่ากระเป๋าสตางค์แบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
ประเภทของกระเป๋าสตางค์ยอดนิยม
ก่อนจะเลือกซื้อ เรามาทำความรู้จักกระเป๋าสตางค์ประเภทต่างๆ ที่เห็นบ่อยๆ กันก่อนดีกว่า
: แบบพับสองทบ (Bi-Fold Wallet) จะมีลักษณะเป็นกระเป๋าสตางค์มาตรฐานทั่วไป พับครึ่งหนึ่งครั้ง เหมาะกับคนที่ชอบความเรียบง่าย พกบัตรไม่เยอะมาก และมีเงินสดพอประมาณ ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ใส่ในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าเสื้อได้สบาย
: แบบพับสามทบ (Tri-Fold Wallet) จะเป็นกระเป๋าสตางค์ที่พับได้สามส่วน มีช่องใส่บัตรและช่องลับเยอะกว่าแบบสองทบ เหมาะกับคนที่ต้องพกบัตรจำนวนมาก บัตรสมาชิก บัตรเครดิต หรือมีของจุกจิกที่อยากเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ ข้อดีคือจุของได้เยอะ แต่ข้อเสียคืออาจดูหนาและตุงเมื่อใส่ของเต็ม
: แบบยาว (Long Wallet / Billfold) เป็นกระเป๋าสตางค์ทรงยาว ไม่ต้องพับธนบัตร ทำให้ธนบัตรเรียบ ไม่ยับ มีช่องใส่บัตรจำนวนมาก เหมาะกับคนที่ชอบความหรูหรา ดูภูมิฐาน ไม่พกกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกง หรือคนที่ใช้เงินสดเยอะและต้องการให้ธนบัตรไม่ยับง่าย บางคนเชื่อว่าการไม่พับเงินจะช่วยเรื่องการเงินด้วย
: แบบใส่เหรียญแยก (Coin Purse/Pouch) เป็นกระเป๋าขนาดเล็กสำหรับใส่เหรียญโดยเฉพาะ อาจมีซิปหรือกระดุมปิด เหมาะกับคนที่ใช้เงินเหรียญบ่อย และไม่อยากให้เหรียญไปเพิ่มความหนาหรือสร้างรอยในกระเป๋าสตางค์หลัก เป็นตัวช่วยเสริมที่น่ารักและมีประโยชน์
: กระเป๋าคลัตช์ (Clutch Wallet/Wallet-on-Chain) อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสาวๆ ที่ชอบใช้กัน โดยเป็นกระเป๋าสตางค์ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย บางรุ่นมีสายโซ่หรือสายคล้องมือ สามารถใช้เป็นกระเป๋าถือเล็กๆ ได้เลย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบพกกระเป๋าใหญ่ในบางโอกาส หรือต้องการกระเป๋าที่รวมฟังก์ชันกระเป๋าสตางค์กับกระเป๋าถือไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับออกงาน หรือไปเดินเล่นแบบสบายๆ
เลือกกระเป๋าสตางค์ตามจำนวนบัตรและเงินสดที่พก
กระเป๋าสตางค์ที่ดีคือกระเป๋าที่พอดีกับของที่คุณพก ไม่แน่นจนตุง หรือหลวมจนของหล่นหาย ดังนั้นหากคุณเป็นประเภทที่พกเงินสดน้อยมาก/ใช้บัตรเป็นหลัก แนะนำให้เลือกแบบ Card Holder หรือ Slim Wallet ที่เน้นช่องใส่บัตรไม่กี่ช่อง และมีช่องสำหรับธนบัตรพับครึ่งเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้กระเป๋ามีความบางเฉียบ พกพาสะดวก หากเป็นพวกพกเงินสดพอประมาณ มีบัตรไม่กี่ใบ แนะนำให้ใช้แบบ Bi-Fold คือตัวเลือกที่ลงตัวที่สุด มีพื้นที่สำหรับธนบัตรและบัตรที่จำเป็นเพียงพอ แต่ถ้าหากคุณเป็นพวกที่ชอบพกเงินสดเยอะ แถมบัตรก็เยอะ แนะนำให้ใช้แบบ Tri-Fold หรือ Long Wallet จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะมีช่องใส่ของจำนวนมาก ช่วยให้จัดระเบียบได้ดี และไม่ทำให้กระเป๋าดูแน่นจนเสียรูป
วัสดุของกระเป๋าสตางค์
วัสดุของกระเป๋าสตางค์ไม่เพียงแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังรวมถึงความทนทาน และการดูแลรักษาด้วย หากใช้วัสดุ “หนังแท้” ก็จะทนทานมาก ยิ่งใช้ยิ่งสวย ยิ่งเก่ายิ่งมีเสน่ห์ ระบายอากาศได้ดี แต่ราคาสูง ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษอย่างเช่นต้องลงครีมบำรุงและไม่กันน้ำเท่าที่ควร เหมาะกับคนที่ชอบความคลาสสิก เน้นความทนทาน และต้องการลงทุนกับของที่ใช้ได้นาน
ใครที่ไม่ชอบหนังแท้ ก็ยังมี “หนังเทียม” ที่ราคาเข้าถึงง่าย มีสีและลวดลายหลากหลาย ทำความสะอาดง่าย กันน้ำได้ดีกว่าหนังแท้ แต่อายุการใช้งานสั้นกว่าหนังแท้ อาจมีการลอกหรือแตกเมื่อใช้ไปนานๆ เหมาะกับคนที่ต้องการกระเป๋าแฟชั่น เปลี่ยนบ่อยๆ หรือไม่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์
หรือหากไม่ชอบประเภทหนังก็ยังมี “ผ้าหรือแคนวาส” ที่มีน้ำหนักเบา มีดีไซน์และลวดลายเฉพาะตัว ราคาไม่แพง แต่อาจสกปรกง่ายกว่าวัสดุอื่น บางชนิดอาจไม่กันน้ำ และซักทำความสะอาดค่อนข้างยากหากเป็นคราบฝังแน่น เหมาะกับคนที่ชอบความลำลอง ง่ายๆ เป็นกันเอง หรือต้องการกระเป๋าสตางค์ที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร
และตัวเลือกสุดท้าย “วัสดุรักษ์โลก” หรือ Recycled Materials / Cork / Plant-based ข้อดีคือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ข้อเสียก็คืออาจหายากกว่า ราคาหลากหลาย และความทนทานขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ เหมาะกับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
สีของกระเป๋าสตางค์กับความเชื่อเรื่องโชคลาง
หลายคนเชื่อว่าสีของกระเป๋าสตางค์สามารถส่งผลต่อโชคลาภและการเงินได้ ลองมาดูความเชื่อยอดนิยมกัน ว่าสีไหนจะดึงดูดอะไร ใช่แบบที่คุณหวังไว้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม สายมูที่แท้จริงก็อย่าลืมเช็คสีประจำวันของตัวเองที่ถูกโฉลกด้วยล่ะ
สีแดง เชื่อว่าดึงดูดเงินทอง แต่ก็อาจทำให้เงินออกเร็วได้เช่นกัน
สีดำ เชื่อว่าช่วยเก็บเงินให้อยู่ ไม่รั่วไหล ทำให้เงินไม่ขาดมือ
สีทอง/เหลือง เชื่อว่าช่วยเสริมเรื่องโชคลาภ ความร่ำรวย ดึงดูดทรัพย์
สีเขียว เชื่อว่าช่วยให้เงินงอกเงย เพิ่มพูน
สีน้ำเงิน บางคนเชื่อว่าน้ำเงินคือสีของน้ำ ที่อาจทำให้เงินไหลออกได้ง่าย
วิธีจัดระเบียบกระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสตางค์ที่ยัดแน่นจนตุง ไม่เพียงดูไม่ดี แต่ยังทำให้บัตรชำรุดเสียหายได้ง่าย ลองมาจัดระเบียบกันดีกว่า โดยอย่างแรกเลยคือการ คัดกรองบัตรที่ไม่จำเป็น ให้นำบัตรสมาชิกที่ไม่ค่อยใช้ บัตรสะสมแต้มที่ไม่จำเป็น หรือบัตรที่หมดอายุแล้วออกจากกระเป๋าสตางค์ ใช้แอปพลิเคชันเก็บข้อมูลบัตรสมาชิกแทนการพกบัตรจริง และเก็บเฉพาะเงินสดที่จำเป็น พกเงินสดเท่าที่จำเป็นสำหรับการใช้จ่ายในแต่ละวันเท่านั้น ไม่ต้องพกทั้งกระเป๋า อย่าลืมที่จะจัดเรียงบัตรให้เป็นหมวดหมู่ จัดเรียงบัตรที่ใช้บ่อยไว้ในช่องที่หยิบง่าย บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ควรอยู่ในช่องที่เข้าถึงได้เร็วเมื่อต้องแสดงตัว
กำจัดใบเสร็จที่ไม่จำเป็น เมื่อได้ใบเสร็จมา ให้รีบเคลียร์ออกทันที หากจำเป็นต้องเก็บ ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ หรือแยกเก็บในช่องลับ/ซองเล็กๆ และไม่ใส่รูปภาพหรือของขลังเยอะเกินไป แม้จะอยากพกของที่มีความหมายติดตัว แต่การใส่รูปภาพ หรือของขลังจำนวนมาก อาจทำให้กระเป๋าหนาขึ้น และของเสียหายได้ง่าย และไม่ว่าใครก็ชอบอะไรที่สะอาดจริงไหม ดังนั้นก็ควรทำความสะอาดเป็นประจำ เช็ดทำความสะอาดกระเป๋าสตางค์เป็นประจำ (ตามประเภทวัสดุ) เพื่อขจัดฝุ่นและคราบสกปรก และช่วยให้กระเป๋าสตางค์ดูดีเสมอ
การเลือกและจัดระเบียบกระเป๋าสตางค์เป็นการสะท้อนว่าคุณใส่ใจในรายละเอียดของชีวิต และสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้ได้กระเป๋าสตางค์ที่ใช่และคุณจะพบเจอสิ่งที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้งาน อย่าลืมที่จะจัดระเบียบมันด้วยล่ะ รับรองชีวิตคุณจะง่าย สะดวก ฉับไว และดีขึ้นอย่างแน่นอน