กระเป๋าหนังมีกลิ่น วิธีแก้กลิ่นเฉพาะตัวของกระเป๋าหนังแท้
กระเป๋าหนังแท้เป็นกระเป๋าที่สวย คลาสสิค ไม่ว่าใครก็คงอดไม่ได้ที่จะซื้อมาใช้ ด้วยความทนทานและผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เสน่ห์เหล่านี้ก็มาพร้อมกับเรื่องที่หลีกหนีไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของ “กลิ่น” บางครั้งมันคือ กลิ่นเฉพาะตัวของหนัง ซึ่งเป็นธรรมชาติที่บางคนอาจชื่นชอบ แต่บางคนอาจรู้สึกไม่คุ้นเคยหรือไม่ถูกจริต แต่ในอีกกรณีหนึ่งที่น่ากังวลกว่าคือ กลิ่นอับชื้น ที่เกิดขึ้นจากการเก็บรักษาไม่ถูกวิธี
ทำความเข้าใจกับ “กลิ่นหนังแท้” และ “กลิ่นอับ”
เมื่อหนังได้รับความชื้นสะสม ปัญหากลิ่นเหล่านี้ไม่เพียงลดทอนความน่าใช้ของกระเป๋า แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของหนังด้วย การทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการดูแลเฉพาะทางจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้กระเป๋าหนังแท้ของคุณยังคงความสวยงามหรูหราและปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นเราต้องแยกให้ออกระหว่างกลิ่นธรรมชาติของหนังแท้กับกลิ่นอับที่เกิดจากปัญหา
กลิ่นหนังแท้ (Genuine Leather Scent) คือกลิ่นเฉพาะตัวที่เกิดจากกระบวนการฟอกหนัง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามประเภทของหนังสัตว์และสารเคมีที่ใช้ในการฟอก บางคนบรรยายว่าเป็นกลิ่นอบอุ่น กลิ่นดิน หรือกลิ่นที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม แต่สำหรับบางคน กลิ่นนี้อาจจะฉุนหรือไม่ถูกจริตนัก กลิ่นนี้จะค่อยๆ จางหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไปและการใช้งาน
กลิ่นอับ (Musty/Mildew Scent) คือสัญญาณเตือนของปัญหา กลิ่นอับเกิดจากการที่หนังได้รับความชื้นสะสมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์อื่นๆ กลิ่นนี้จะแตกต่างจากกลิ่นหนังธรรมชาติอย่างชัดเจน โดยจะมีลักษณะเหม็นอับ เหม็นเปรี้ยว หรือคล้ายกลิ่นเชื้อรา เป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่งและต้องรีบจัดการ
วิธีดูแลรักษากระเป๋าหนังแท้
การดูแลรักษากระเป๋าหนังแท้ที่ถูกต้องคือการจัดการกับกลิ่นทั้งสองประเภทข้างต้นอย่างเข้าใจ เพื่อให้กระเป๋าคงสภาพดีและหอมสดชื่นอยู่เสมอ และวิธีดูแลกระเป๋าหนังแท้ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของทุกคนนัก เพียงเรา “ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ” ก็จะช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ในกระเป๋าหนังแท้คือการ ทำความสะอาดเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการใช้งานทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าที่ใช้ทุกวัน หรือกระเป๋าที่นานๆ หยิบออกมาใช้สักที
ทุกครั้งที่คุณกลับมาถึงบ้าน หลังจากการใช้งานกระเป๋า ควรใช้ ผ้าแห้งเนื้อนุ่ม (เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์) เช็ดทำความสะอาดเบาๆ ให้ทั่วทั้งพื้นผิวกระเป๋า การเช็ดนี้จะช่วยขจัดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก คราบเหงื่อ หรือความชื้นเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจติดมากับกระเป๋าระหว่างวัน การขจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกไปอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสที่แบคทีเรียจะสะสมและก่อให้เกิดกลิ่นอับได้ในอนาคต
การบำรุงกระเป๋าหนังแท้
การบำรุงด้วยน้ำยาเฉพาะ จะช่วยเติมความชุ่มชื้น ป้องกันกลิ่น หนังแท้ก็เหมือนผิวของเราที่ต้องการความชุ่มชื้น การใช้ น้ำยาบำรุงหนัง (Leather Conditioner) เป็นประจำ ไม่เพียงช่วยให้หนังคงความยืดหยุ่น เงางาม และป้องกันการแห้งแตกเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องกลิ่นอับได้อีกด้วย การน้ำยาบำรุงหนังจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นใยหนัง ทำให้หนังไม่แห้งกรอบ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หนังมีกลิ่นอับได้ง่ายเมื่อความชื้นเข้ามาแทรกซึม นอกจากนี้ น้ำยาบำรุงบางชนิดยังมีคุณสมบัติช่วยสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนพื้นผิวหนัง ซึ่งช่วยปกป้องหนังจากความชื้นและสิ่งสกปรกได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อกระเป๋าหนังที่ได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอจะมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีความยืดหยุ่นดีกว่า ทำให้ยากที่ความชื้นจะแทรกซึมเข้าไปสะสมในเส้นใยหนัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกลิ่นอับ ควรทาน้ำยาบำรุงหนังทุก 3-6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นหากกระเป๋าใช้งานบ่อย หรืออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งจัด ส่งผลให้ไร้กลิ่นอับหรือกลิ่นชื้นแน่นอน
การนำมาผึ่งลม ลดกลิ่นได้
การผึ่งลมเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษากระเป๋าหนังให้ไร้กลิ่นอับ และช่วยให้กลิ่นหนังธรรมชาติค่อยๆ จางลง ควรผึ่งลมในที่ร่มเสมอ หลังจากการใช้งาน หรือหลังทำความสะอาด ควรนำกระเป๋าหนังไป ผึ่งลมในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อย่าตากแดดจัดโดยตรงเด็ดขาด เพราะแสงแดดและความร้อนสูงจะทำลายโครงสร้างของหนัง ทำให้หนังแห้ง แตก สีซีดจาง และอาจเกิดกลิ่นไหม้หรือกลิ่นเหม็นอับตามมาได้หากหนังเริ่มเสื่อมสภาพ
การผึ่งลมช่วยให้ความชื้นที่สะสมอยู่ภายในกระเป๋า โดยเฉพาะบริเวณซับในที่มักจะอับชื้น ระเหยออกไปจนหมด ทำให้ไม่เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย และยังช่วยให้กลิ่นสารเคมีตกค้างหรือกลิ่นหนังธรรมชาติค่อยๆ จางลงไปตามกาลเวลา ขณะผึ่งลม ควรถอดสิ่งของทุกอย่างออกจากกระเป๋า และเปิดช่องซิป ช่องกระเป๋าทุกช่อง เพื่อให้อากาศสามารถไหลเวียนเข้าไปถึงด้านในสุดของกระเป๋าได้อย่างทั่วถึง
หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ
น้ำคือศัตรูตัวฉกาจของกระเป๋าหนังแท้ การที่หนังโดนน้ำมากเกินไปจะส่งผลเสียในหลายด้าน และเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นอับ เมื่อหนังโดนน้ำ โมเลกุลของน้ำจะเข้าไปแทรกซึมในเส้นใยหนัง ทำให้หนังพองตัว เสียรูปทรง และเมื่อแห้ง หนังอาจแข็งกระด้าง แตกเป็นรอย หรือเกิดคราบน้ำที่ไม่สามารถลบออกได้ หากกระเป๋าหนังโดนน้ำแล้วไม่ได้เช็ดให้แห้งสนิท ความชื้นจะถูกกักเก็บไว้ภายในเส้นใยหนัง กลายเป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นอับชื้นและเชื้อรา ซึ่งอาจลุกลามจนทำลายกระเป๋าทั้งใบได้ กลิ่นเชื้อราในกระเป๋าหนังเป็นสิ่งที่กำจัดได้ยากมาก และอาจต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญ
หากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้กระเป๋าหนังเปียกน้ำ ควรรีบใช้ผ้าแห้งสะอาด นุ่ม และซับน้ำได้ดี ซับน้ำออกทันทีให้ได้มากที่สุด ห้ามถูหรือบีบกระเป๋าแรงๆ จากนั้นให้นำกระเป๋าไป ผึ่งลมในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยจัดรูปทรงกระเป๋าให้เหมือนเดิมมากที่สุด และอาจยัดไส้กระเป๋าด้วยกระดาษแก้ว (Acid-Free Tissue Paper) เพื่อช่วยคงรูปทรงขณะที่หนังแห้งตัวลง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแห้งสนิทจริงๆ ก่อนที่จะเก็บเข้าที่
การดูแลกระเป๋าหนังแท้นั้นต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียดและความเข้าใจในธรรมชาติของวัสดุ การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ การบำรุงด้วยน้ำยาเฉพาะ การผึ่งลมอย่างถูกวิธี และการหลีกเลี่ยงการโดนน้ำ คือหลักปฏิบัติสำคัญที่จะช่วยให้กระเป๋าหนังแท้ของคุณคงความสวยงาม หรูหรา และปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ไปอีกนานแสนนาน