กระเป๋าเลอะทำยังไง วิธีจัดการกลิ่นและคราบอาหาร เครื่องดื่มในกระเป๋า
ไม่มีใครอยากให้กระเป๋าที่เราใช้อยู่ต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างการหกเลอะเทอะของอาหารหรือเครื่องดื่มหรอก แต่ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยกิจกรรม โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ย่อมมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวานหกใส่ กาแฟกระเซ็นโดน น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเลอะ หรือแม้แต่เศษอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจหลงเหลืออยู่ในกระเป๋าโดยที่เราไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านี้แหละคือ สาเหตุหลักที่นำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่หลายคนต้องเผชิญ นั่นคือคราบฝังลึกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่ยากจะกำจัดออกไป
เมื่ออาหารหรือเครื่องดื่มหกเลอะเทอะลงในกระเป๋า โดยเฉพาะของเหลวที่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือนม เศษอาหารที่ตกค้างเล็กน้อยเหล่านี้จะกลายเป็น แหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียชั้นดี ในสภาพแวดล้อมที่อับชื้นและมืดมิดภายในกระเป๋า แบคทีเรียเหล่านี้จะเริ่มย่อยสลายสารอินทรีย์ ทำให้เกิดก๊าซที่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว กลิ่นอับ หรือแม้กระทั่งกลิ่นเหม็นเน่าที่รุนแรง หากปล่อยทิ้งไว้นาน คราบก็จะยิ่งฝังลึกและกลิ่นก็จะยิ่งแรงขึ้นจนยากจะแก้ไข การเรียนรู้วิธีจัดการกับอุบัติเหตุเหล่านี้อย่างถูกวิธีและรวดเร็ว จะช่วยให้เรารักษากระเป๋าให้สะอาด ปราศจากกลิ่น และคงสภาพดีเหมือนใหม่เสมอ
เลอะปุ๊บ รีบจัดการปั๊บ กฎข้อแรกที่ต้องทำ
สิ่งที่ต้องจำขึ้นใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือ เราต้องรีบทำความสะอาดคราบทันทีที่เกิดเหตุขึ้น เพราะยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ คราบก็จะยิ่งฝังแน่นและแห้งติดกับวัสดุของกระเป๋า ทำให้ยากต่อการทำความสะอาดและอาจทิ้งร่องรอยถาวรไว้ได้ การดำเนินการอย่างรวดเร็วจะช่วยยับยั้งการซึมลึกของคราบ และจำกัดการแพร่กระจายของกลิ่นที่จะตามมา
การจัดการเฉพาะประเภทวัสดุ
กระเป๋าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและวิธีการทำความสะอาดที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับวัสดุจะช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม เพราะแต่ละคนก็คงใช้กระเป๋าหลากหลายอยู่แล้ว โดยเราขอเรียงตามนี้
กระเป๋าผ้า / แคนวาส
กระเป๋าประเภทนี้มักจะทนทานต่อการทำความสะอาดด้วยน้ำได้ดีกว่า แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เปียกชุ่มจนเกินไป ดังนั้นให้ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูซับคราบของเหลวออกให้ได้มากที่สุดทันที อย่าถู เพราะจะยิ่งทำให้คราบกระจายตัวและซึมลึก หากมีอุปกรณ์หรือเวลา ก็ให้เตรียมน้ำอุ่นผสมกับ สบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าเนื้อละเอียด (เช่น สบู่เด็ก หรือน้ำยาซักผ้าไหม) เพียงเล็กน้อย ให้เกิดฟองแล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือแปรงขนนุ่ม (สำหรับคราบที่เริ่มแห้ง) ชุบน้ำสบู่ที่เตรียมไว้ บิดให้ หมาดที่สุด แล้วค่อยๆ เช็ดหรือแปรงเบาๆ บริเวณที่มีคราบ ไล่จากขอบนอกของคราบเข้ามาตรงกลาง เพื่อป้องกันการกระจายตัวของคราบ จากนั้นใช้ผ้าสะอาดอีกผืน ชุบน้ำเปล่า บิดหมาดๆ แล้วเช็ดซ้ำเพื่อล้างคราบสบู่ออก ทำซ้ำจนแน่ใจว่าไม่มีคราบสบู่หลงเหลืออยู่
แต่ถ้าหากเป็นคราบฝังแน่นที่แห้งแล้ว อาจใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าเล็กน้อยเช็ดก่อน (อัตราส่วนประมาณ 1:10) แล้วตามด้วยวิธีทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ การทำให้แห้งหลังจากทำความสะอาด คือการนำมาผึ่งลมให้แห้งสนิท ในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ควรตากแดดจัดโดยตรง เพราะอาจทำให้สีซีดจางและผ้าเสื่อมสภาพ หากกระเป๋ามีรูปทรง อาจยัดกระดาษแก้วหรือหมอนรองกระเป๋าด้านในเพื่อช่วยคงรูปทรงขณะผึ่ง
กระเป๋าหนัง (หนังแท้, หนังเรียบ, หนังฟอกฝาด)
กระเป๋าหนังต้องการความละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ เพราะหนังอาจเสียหายหรือเกิดคราบถาวรได้ง่ายหากโดนน้ำหรือสารเคมีที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นหากเลอะแล้วแนะนำให้ใช้ผ้าแห้งสะอาด นุ่ม และดูดซับได้ดี (เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์) ซับคราบออกทันทีให้ได้มากที่สุด ห้ามถูหรือขยี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้คราบซึมเข้าเนื้อหนัง ถ้ากลับไปบ้านแล้วก็ค่อยใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ (Leather Cleaner) ที่เหมาะสมกับประเภทของหนัง หยดลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดและแห้ง ค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณคราบเบาๆ โดยเช็ดวนเป็นวงกลมเล็กๆ จากขอบนอกของคราบเข้ามาด้านใน ทำอย่างช้าๆ และระมัดระวัง แล้วใช้ผ้าสะอาดผืนใหม่เช็ดคราบน้ำยาออกเบาๆ
สำหรับคราบน้ำมันหรือคราบเหนียว อาจโรยแป้งข้าวโพด หรือแป้งเด็ก ลงบนคราบ ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งช่วยดูดซับไขมัน จากนั้นใช้แปรงขนนุ่มปัดออกเบาๆ แล้วตามด้วยการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดหนัง และเมื่อกระเป๋าแห้งสนิทแล้ว ควรใช้ ครีมบำรุงหนัง (Leather Conditioner) ลูบไล้ให้ทั่ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันหนังแห้งแตก และคืนความเงางามให้กับหนังที่อาจสูญเสียไปจากการทำความสะอาด
กระเป๋าหนังกลับ (Suede/Nubuck)
หนังกลับเป็นวัสดุที่บอบบางและไวต่อน้ำเป็นอย่างมาก การทำความสะอาดต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้ากระเป๋าชนิดนี้เลอะ ก็ให้ใช้ผ้าแห้งสะอาด ซับคราบของเหลวออกทันที ห้ามถูเด็ดขาด เพราะจะทำให้คราบซึมและเกิดเป็นรอยด่างถาวร พอมีเวลาหรือกลับบ้านแล้ว คราบสกปรกก็คงแห้งสนิท ถ้ายังไม่แห้งก็รอให้แห้งก่อน ห้ามทำความสะอาดขณะเปียกเด็ดขาด โดยให้ใช้แปรงสำหรับหนังกลับโดยเฉพาะ (Suede Brush) แปรงเบาๆ บริเวณคราบเพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่
หากเป็นคราบฝังแน่น ให้ใช้ ยางลบสำหรับหนังกลับ (Suede Eraser) ถูเบาๆ บริเวณคราบ จากนั้นแปรงออก แต่ถ้าทำแล้วคราบก็ยังอยู่ อาจใช้เป็นสเปรย์ทำความสะอาดหนังกลับโดยเฉพาะ โดยฉีดพ่นตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์ แล้วใช้ผ้าสะอาดหรือแปรงหนังกลับเช็ดออกเบาๆ จากนั้นก็ควรผึ่งลมในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทดี ห้ามใช้เครื่องเป่าผม หรือตากแดดจัด
กระเป๋าไนลอน / โพลีเอสเตอร์
วัสดุเหล่านี้มีความทนทานและกันน้ำได้ดี ทำให้การทำความสะอาดคราบเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ดังนั้นพอเกิดคราบสกปรกขึ้น ก็สามารถใช้ผ้าแห้งสะอาดซับคราบของเหลวออกให้มากที่สุดทันที พอกลับถึงบ้านก็ค่อยใช้น้ำสบู่อ่อนๆ (เช่น สบู่เหลวเด็ก) ผสมน้ำอุ่น แล้วใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ ชุบน้ำสบู่ บิดให้ หมาดที่สุด แล้วเช็ดทำความสะอาดบริเวณคราบเบาๆ ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าบิดหมาดๆ เช็ดซ้ำเพื่อล้างคราบสบู่ออก
แต่ถ้าเราไม่ได้ทำความสะอาดเลย จนเกิดคราบฝังแน่นที่อาจเกิดจากน้ำมันหรือคราบเหนียว อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์แบบอ่อนโยน (All-Purpose Cleaner) ที่เจือจางแล้วเช็ดทำความสะอาด แนะนำให้ควรทดสอบในจุดที่มองไม่เห็นก่อน พอทำความสะอาดเสร็จก็เช็ดด้วยผ้าแห้งให้มากที่สุด จากนั้นผึ่งลมในที่ร่มจนแห้งสนิท
การเผชิญกับอุบัติเหตุไม่คาดฝันกับกระเป๋าของเรานั้นถือเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่หากเรามีความรู้และลงมือจัดการอย่างถูกวิธีและรวดเร็ว กระเป๋าของคุณก็จะสามารถกลับมาสวยงาม ปราศจากกลิ่น และพร้อมใช้งานไปได้อีกนานแสนนาน และอย่าลืมว่าไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าประเภทใด สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแน่ใจว่ากระเป๋าแห้งสนิทจริงๆ ก่อนนำไปเก็บ เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อราที่อาจตามมาก็เป็นได้