การแต่งตัวตาม Personal Color คืออะไร แต่งแล้วปังจริงหรือหลอก

การแต่งตัวตาม Personal Color คืออะไร แต่งแล้วปังจริงหรือหลอก

การแต่งตัวตาม Personal Color คืออะไร แต่งแล้วปังจริงหรือหลอก

เคยไหมที่เสื้อผ้าบางสีใส่แล้วหน้าดูสว่างสดใส มีออร่า ผิวดูผ่องขึ้นมาทันที แต่พอใส่เสื้ออีกสีที่ดูคล้ายๆ กันกลับรู้สึกว่าหน้าดูหมองคล้ำ ซีดเซียว หรือดูโทรมลงไปซะอย่างนั้น บอกเลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือเพราะวันนั้นนอนน้อยนะ แต่มันคือเรื่องของ การแต่งตัวตาม Personal Color หรือสีประจำตัวของคุณต่างหาก การค้นพบ Personal Color ของตัวเองจะช่วยให้คุณเลือกสีเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรือแม้แต่สีผมที่ช่วยส่งให้คุณดูดีที่สุดในแบบที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ตามเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไปมา

 

ทำความรู้จักกับ Personal Color

สิ่งที่หลายคนไม่ค่อยรู้คือ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีผิวขาว ผิวเหลือง หรือผิวแทนนะ แต่มันขึ้นอยู่กับ “อันเดอร์โทน (Undertone)” และความสว่างกับความมืดของสีผิว เส้นผม และดวงตาของคุณ อย่างแรกจะแบ่งเป็น 2 โทนก่อน นั่นก็คือ Cool Tone และ Warm Tone พอได้แล้วก็จะแบ่งย่อยออกเป็น 4 ฤดูหลักๆ และแต่ละฤดูก็จะมีโทนสีที่ใช่สำหรับแต่ละบุคคล ที่จะขับออร่าของคุณให้เปล่งประกายออกมาได้เต็มที่ ดังนั้นเจ้าสีประจำตัวจึงถือว่าหากคุณรู้ไว้ก็จะดีต่อตัวเองไม่น้อยเลยล่ะ

 

ความสำคัญของ Personal Color

ในยุคที่แฟชั่นมาเร็วไปเร็ว การตามเทรนด์อาจทำให้คุณรู้สึกไม่เป็นตัวเอง และเสียเงินไปกับเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ แต่การเข้าใจสีประจำตัวของคุณจะช่วยเปลี่ยนเกมการแต่งตัวของคุณไปเลย เพราะจะช่วยขับผิวให้ผ่องใส มีออร่า เมื่อคุณสวมใส่สีที่เข้ากับสีประจำตัวของคุณแล้วนั้น ผิวหน้าของคุณจะดูสว่างขึ้น รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง และเมคอัพก็ดูติดทนและชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดเงินและเวลา เวลาคุณจะซื้อเสื้อผ้าตัวไหน ก็จะตัดสินใจได้ไวขึ้นเพราะรู้ว่าสีไหนที่ใช่สำหรับคุณจริงๆ ไม่ต้องเสียเงินไปกับเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่ขึ้น และลดเวลาในการตัดสินใจเลือกชุด

 

เมื่อคุณรู้ว่าตัวเองดูดีในสีไหน ความมั่นใจก็จะเปล่งประกายออกมาจากภายใน คุณจะรู้สึกเป็นธรรมชาติและเป็นตัวเองมากขึ้น อีกทั้งในบริบทของการทำงาน การเลือกสีเสื้อผ้าที่ส่งเสริมบุคลิกภาพ จะช่วยให้คุณดูน่าเชื่อถือและเข้าถึงง่ายขึ้น การแต่งตัวตาม Personal Color จะไม่มีวันตกยุคแน่นอน เพราะสีประจำตัวของคุณจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ไม่ว่าเทรนด์สีไหนจะมาแรง สีประจำตัวของคุณก็ยังคงเป็นสีที่ทำให้คุณดูดีเสมอ ขอบอกความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสีประจำตัวสักหน่อยว่า มันไม่ได้มีแค่ 4 ฤดูใหญ่ๆ นะ แต่ในแต่ละฤดูยังแตกย่อยออกไปได้อีก เช่น Spring อาจมี Soft Spring, True Spring, Light Spring ซึ่งมีความซับซ้อนขึ้นไปอีก แต่สำหรับมือใหม่ การทำความเข้าใจ 4 ฤดูหลักก็เพียงพอแล้ว

 

วิธีเช็ค Personal Color ของตัวเอง

แน่นอนว่าการหาสีประจำตัวที่แม่นยำที่สุดคือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน Personal Color Analysis แต่คุณสามารถเริ่มต้นด้วยตัวเองได้จากขั้นตอนเหล่านี้

 

การแต่งตัวตาม Personal Color คืออะไร แต่งแล้วปังจริงหรือหลอก 1

เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบ

แสงธรรมชาติ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยให้ทำการทดสอบในห้องที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง ไม่ใช่แสงไฟนีออน หรือแสงไฟสีเหลือง เพราะจะทำให้การประเมินผิดเพี้ยนได้ และต้องเป็น “หน้าสด” ห้ามแต่งหน้า ห้ามทาลิปสติก หรือสวมเครื่องประดับ เพราะสิ่งเหล่านี้จะรบกวนการประเมินสีผิวที่แท้จริง

 

ควรสวมเสื้อสีกลาง โดยจะเลือกเป็นเสื้อสีเทาอ่อน หรือสีขาว เพื่อไม่ให้สีเสื้อมีอิทธิพลต่อการประเมิน หากผมยาวก็ให้รวบผมไปด้านหลังให้พ้นจากใบหน้า หากมีสีผมที่ย้อมมา ควรใช้ผ้าคลุมผม หรือสวมหมวกคลุมผมสีกลางๆ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหาผ้าสีต่างๆ เช่น ผ้าพันคอ เสื้อยืด ทั้งโทนเย็นและโทนอุ่น และผ้าที่มีความสว่าง-ความมืดแตกต่างกัน มาวางทาบใต้คางใกล้ใบหน้า แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตัวเอง

 

ประเมิน “อันเดอร์โทน” (Undertone)

ด่านแรกในการเช็คโทนสีง่ายๆ คือการดูเส้นเลือดที่ข้อมือ หากเส้นเลือดเป็นสี น้ำเงินหรือม่วง คุณอาจเป็น Cool Tone (โทนเย็น) หากเป็นสี เขียว คุณอาจเป็น Warm Tone (โทนอุ่น) หากเป็น น้ำเงินปนเขียว อาจเป็น Neutral Tone (โทนกลาง)

 

ต่อมาก็สามารถทดสอบด้วยสีเงินและสีทอง ลองถือผ้าสีเงินและสีทอง หรือใช้เป็นเครื่องประดับ มาวางทาบกับใบหน้าดูว่าสีไหนที่ทำให้ผิวดูสว่าง มีชีวิตชีวาขึ้น สีไหนที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หรือซีดเซียว Cool Tone มักจะขึ้นกับสีเงิน ในขณะที่ Warm Tone มักจะขึ้นกับสีทอง

 

ฤดูกาลทั้ง 4 ของสีประจำตัว

หลังจากที่เรารู้โทนสีแล้ว ก็จะช่วยตัดช้อยส์ของการเป็นฤดูกาลอื่นที่ไม่ใช่ของเราได้ โดยหากคุณมั่นใจว่าเป็น Cool Tone หรือผิวโทนเย็น ก็จะเป็น Summer กับ Winter แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าเป็น Warm Tone หรือผิวโทนอุ่น ก็จะเป็น Spring กับ Autumn ทีนี้เฉดสีในการเทียบก็จะน้อยยิ่งขึ้น พอพาฤดูได้แล้ว ก็ต้องไปหาเจาะย่อยอีกว่าเป็นประเภทไหน

 

วิธีเช็คเพิ่มเติมง่ายๆ แบบไม่เสียเงิน

การเช็คนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือจะให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนรักช่วยก็ได้ คุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะไปร้านเครื่องเขียนโซนกระดาษสี หรือจะไปร้านเสื้อผ้าที่มีสีพื้นมากมาย จากนั้นให้นำสีเหล่านั้นมาไว้ด้านหลังตัวคุณ แล้วมองผ่านกระจก การทำแบบนี้จะช่วยให้เราเห็นได้ชัดว่าสีไหนที่เข้ากับเรา ทำให้เราผ่อง สว่าง ดูดีขึ้น หรือทำให้เราดูหมองกันแน่นั่นเอง

 

การแต่งตัวตาม Personal Color จะทำให้คุณดูดีขึ้นอีกระดับแน่นอน แต่มันอาจจะยุ่งยากเสียหน่อยในการค้นหาฤดูหรือสีที่ใช่ เพราะมันอาจต้องใช้เวลาและการสังเกต แต่เมื่อคุณค้นพบมันแล้ว คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในภาพลักษณ์ของคุณ ทำให้คุณดูสดใส มีชีวิตชีวา และเปล่งประกายในแบบที่เป็นตัวเองจริงๆ หรือถ้าใครอยากเอาชัวร์ เราก็อยากแนะนำให้ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีกว่า เดี๋ยวนี้ก็มีหลายราคา หลายระดับ ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *