วิธีซักเสื้อยืด กับ 5 ความผิดพลาดที่ทำให้เสื้อยืดย้วยหรือหด

วิธีซักเสื้อยืด กับ 5 ความผิดพลาดที่ทำให้เสื้อยืดย้วยหรือหด

วิธีซักเสื้อยืด กับ 5 ความผิดพลาดที่ทำให้เสื้อยืดย้วยหรือหด

ทุกคนน่าจะเคยเจอเสื้อยืดที่ย้วยหรือหดเฉยเลย ซักไปไม่กี่ครั้งก็เริ่มย้วยยังกับไม่อยากให้เราใส่ หรือไม่ก็หดจนใส่ไม่ได้หรือทรงไม่สวยเหมือนตอนแรก บางทีสีก็ซีดเร็วเกินคาดจนใจหาย ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้มาจากคุณภาพเสื้อยืดเสมอไปนะ เพราะส่วนใหญ่มันเกิดจาก “ความผิดพลาดในการซัก” ที่หลายคนทำกันโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง และสิ่งที่แย่กว่าคือบางทริคที่เราคิดว่ามันดี กลับเป็นตัวทำลายเสื้อยืดของเราอย่างช้าๆ ซะอย่างนั้น

 

5 ความผิดพลาดที่ทำให้เสื้อยืดย้วยหรือหด

เรามาดูสิ่งที่หลายคนคิดว่ามันดี และได้พลาดทำลงไป ทำให้เสื้อยืดของเราเกิดอาการย้วยหรือการหด ดังนี้

 

ใช้น้ำร้อนซัก (หรือซักผิดอุณหภูมิ)

นี่คือข้อผิดพลาดอันดับต้นๆ ที่คนทำกันบ่อยมาก โดยเฉพาะเวลาซักผ้าขาวที่อยากให้สะอาด หรือเสื้อกีฬาที่อยากให้หมดกลิ่นอับ โดยเกิดจากความเข้าใจผิดที่ว่า “น้ำร้อนฆ่าเชื้อได้ดี ซักสะอาดกว่า” ในความจริงนั้น เส้นใยของผ้า โดยเฉพาะ ผ้าคอตตอน 100% (Cotton 100%) หรือผ้าใยธรรมชาติอื่นๆ จะไวต่อความร้อนสูงมาก เมื่อเจอน้ำร้อน เส้นใยจะหดตัวอย่างรวดเร็วและถาวร ทำให้เสื้อของคุณหดลงทั้งตัว บางทีอาจจะสั้นขึ้น แขนเสื้อกระชับขึ้นจนใส่ไม่ได้ นอกจากนี้ น้ำร้อนยังทำให้ สีเสื้อซีดจาง ได้เร็วขึ้นด้วย โดยเฉพาะเสื้อสีสดๆ อีกทั้งน้ำร้อนยังเป็นตัวร้ายกับคราบโปรตีนด้วย คราบเหงื่อ เลือด หรืออาหารที่มีโปรตีนจะสุกและฝังแน่น ในเนื้อผ้าเมื่อเจอน้ำร้อน ทำให้คราบยิ่งกำจัดยากขึ้นไปอีก!

 

วิธีแก้ที่ถูกต้อง คือการ “ซักด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ” นี่คืออุณหภูมิที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเสื้อยืดเกือบทุกชนิด ช่วยรักษารูปทรง สี และยืดอายุการใช้งาน ส่วนพวกผ้ากีฬา ผ้าโพลีเอสเตอร์ทนความร้อนได้ดีกว่าคอตตอน แต่การใช้น้ำร้อนจัดเป็นประจำก็ไม่ดี เพราะอาจทำให้เส้นใยอ่อนแอลง หรือคุณสมบัติพิเศษ (เช่น Moisture-Wicking) เสื่อมสภาพได้ ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติจะปลอดภัยที่สุด

 

ปั่นแห้งแรงเกินไป

หลายคนอยากให้ผ้าแห้งเร็วๆ ก็เลยตั้งโหมดปั่นแห้งที่ความเร็วสูงสุด ซึ่งนี่แหละคือการเร่งอายุให้เสื้อยืดพังเร็วขึ้น หายนะของเสื้อย้วยและเสียทรงสุดๆ ซึ่งทุกคนคงมีแนวคิดที่ว่า “ปั่นแห้งแรงๆ ผ้าก็แห้งเร็วดีนะ” แต่จริงๆ แล้ว การปั่นแห้งด้วยความเร็วรอบสูงๆ ทำให้เสื้อผ้าถูกเหวี่ยงไปมาอย่างรุนแรง เส้นใยผ้าถูกยืดและดึงออกนอกรูปทรงอย่างรุนแรงซ้ำๆ จนเกิดอาการ “ย้วย” หรือ “บิดเบี้ยว” โดยเฉพาะบริเวณคอเสื้อและชายเสื้อ ยิ่งถ้าเป็นผ้าที่ย้วยง่ายอย่างคอตตอน ก็จะยิ่งเห็นผลชัดเจน อีกทั้งเครื่องอบผ้า (Tumble Dryer) ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เสื้อหดและย้วยได้เช่นกัน เพราะความร้อนสูงในเครื่องอบผ้าจะทำให้เส้นใยหดตัว (โดยเฉพาะคอตตอน) และการปั่นเหวี่ยงขณะอบแห้งก็ทำให้เสื้อยืดเสียทรงได้

 

วิธีแก้ก็คือให้เราเลือก “โหมดปั่นแห้งรอบต่ำ” หากจำเป็นต้องใช้เครื่องซักผ้า ควรเลือกโหมดปั่นแห้งที่ความเร็วรอบต่ำที่สุด หรือเลือกโหมดสำหรับผ้าละเอียดอ่อน (Delicate Cycle) และเลี่ยงเครื่องอบผ้าสำหรับเสื้อยืดคอตตอน หากเป็นไปได้ ให้ตากเสื้อยืดคอตตอนด้วยการแขวน หรือตากแบบราบ หากใช้การซักด้วยมือ ให้บีบน้ำออกเบาๆ อย่าบิดผ้าแรงๆ เพราะจะทำให้ผ้าเสียรูปทรงได้

 

ใช้สารฟอกขาวอย่างผิดวิธี

อยากให้เสื้อขาว ก็เลยเทคลอรีนฟอกขาวแบบจัดเต็ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก ทุกคนคงเข้าใจว่า “คลอรีนฟอกขาวทำให้เสื้อขาวสะอาดขึ้น” ซึ่งคลอรีนฟอกขาว (Bleach) มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง มันไม่ได้แค่ฟอกสีผ้าให้ขาวขึ้นเท่านั้น แต่ยัง ทำลายเส้นใยผ้า ทำให้ผ้าอ่อนแอ เปราะบาง และขาดง่ายเมื่อใช้บ่อยๆ นอกจากนี้ การใช้คลอรีนฟอกขาวกับเสื้อที่มี คราบเหงื่อ โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขน จะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับโปรตีนในเหงื่อ ทำให้คราบเหลืองฝังแน่นยิ่งขึ้นและกำจัดยากกว่าเดิม อีกทั้งคลอรีนฟอกขาวอาจทำให้เสื้อขาว “เหลือง” ขึ้นเมื่อโดนความร้อนและตากแดดนานๆ เนื่องจากปฏิกิริยาเคมีที่ทิ้งคราบไว้บนเส้นใย

 

วิธีการแก้ก็คือ “เลี่ยงคลอรีนฟอกขาวสำหรับเสื้อยืด” โดยเฉพาะเสื้อยืดสี หรือเสื้อที่มีลายสกรีน เพราะจะทำให้ลายซีดหรือลอก แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกขาวแบบออกซิเจน (Oxygen Bleach) แทน หากจำเป็นต้องฟอกขาว ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกขาวที่มีส่วนผสมของออกซิเจน (เช่น โซเดียมเปอร์คาร์บอเนต) ซึ่งอ่อนโยนกับผ้ามากกว่า และไม่ทำให้เกิดคราบเหลืองฝังแน่น หรืออาจใช้ตัวช่วยธรรมชาติ เช่น เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว ซึ่งมีฤทธิ์ฟอกขาวแบบอ่อนๆ และปลอดภัยกับผ้ามากกว่า

 

การตากผ้าที่ผิดวิธี

หลังจากซักเสร็จ การตากผ้าก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม เชื่อว่าหลายคนคงมองว่า “แขวนตรงไหนก็ได้ ให้โดนแดดก็พอ” บอกเลยว่าการแขวนเสื้อยืดบนไม้แขวนเสื้อที่ไม่เหมาะสม หรือการแขวนในลักษณะที่ทำให้เสื้อยืดต้องรับน้ำหนักตัวเองขณะเปียกน้ำ อาจทำให้เกิดปัญหาไหล่ย้วย หรือ คอยืด ได้ง่าย เพราะน้ำหนักของน้ำจะดึงเส้นใยให้ยืดออกตามแรงโน้มถ่วง ยิ่งการใช้ไม้หนีบผ้าที่แข็งและหนีบแน่นๆ บนชายเสื้อขณะตาก ก็สามารถทำให้เกิดรอยหนีบที่ชายเสื้อได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเป็นผ้าที่ละเอียดอ่อน

 

วิธีซักเสื้อยืด กับ 5 ความผิดพลาดที่ทำให้เสื้อยืดย้วยหรือหด 1

วิธีแก้ที่ถูกต้องก็คือ “แขวนเสื้อยืดบนไม้แขวนเสื้อที่รองรับไหล่ได้ดี” แนะนำให้เลือกไม้แขวนเสื้อที่มีขนาดพอดีกับไหล่ ไม่เล็กจนเกินไป และไม่ควรใช้ไม้แขวนเสื้อแบบลวดบางๆ เพราะอาจทำให้เกิดรอยบ่าที่ไหล่ได้ หากเป็นไปได้ ลองวางเสื้อยืดบนตะแกรงตากผ้าแบบแผ่ราบ หรือบนผ้าสะอาด เพื่อไม่ให้เสื้อต้องรับน้ำหนักตัวเองขณะเปียก และตากในที่ร่ม มีลมโกรก แสงแดดจัดๆ อาจทำให้เสื้อซีดหรือเหลือง (โดยเฉพาะเสื้อขาว) และทำให้เส้นใยแห้งกรอบ อย่าลืมที่จะกลับด้านตากด้วย เพื่อถนอมสีและลายสกรีนบนเสื้อ

 

การไม่แยกรวมผ้า (หรือซักไม่ถูกประเภท)

ความมักง่ายในการซักรวมผ้าทุกชนิดเข้าด้วยกัน คือหนทางสู่หายนะของเสื้อยืดดีๆ เลยล่ะ โดยทุกคนคงมองว่า “ซักรวมกันทีเดียวจะได้ไม่เปลืองน้ำ” แต่การคิดแบบนี้ทำให้ เสื้อขาวหมอง การซักเสื้อขาวรวมกับผ้าสี จะทำให้ สีจากผ้าอื่นๆ ตกใส่ หรือเกิดการถ่ายเทของเม็ดสี ทำให้เสื้อขาวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และบางครั้งก็ติดคราบสีอ่อนๆ ที่แก้ยาก แถมยังมีกลิ่นติด เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับมากๆ เช่น เสื้อกีฬาที่เปียกเหงื่อ หากนำไปซักรวมกับเสื้อยืดตัวอื่น กลิ่นอับและแบคทีเรียอาจ ถ่ายเทไปติดเสื้อตัวอื่นได้ ทำให้เสื้อยืดที่เคยหอมสะอาดกลับมีกลิ่นอับไปด้วย และทำลายเนื้อผ้า เสื้อผ้าแต่ละประเภทต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน การซักผ้ายีนส์หนาๆ รวมกับเสื้อยืดเนื้อบางๆ อาจทำให้เสื้อยืดถูกเสียดสีจนเป็นขุย หรือเสียหายได้ง่ายขึ้น

 

วิธีแก้ก็ไม่ได้ยาก เพียงแค่เราต้อง “แยกผ้า” นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการ แยกผ้าขาว ผ้าสี และผ้าดำ/สีเข้ม แยกผ้าตามประเภทและเนื้อผ้า เช่น เสื้อผ้าละเอียดอ่อน เสื้อผ้ากีฬา เสื้อยืดทั่วไป ควรแยกซัก หรือซักในโหมดที่เหมาะสม สามารถใช้ถุงตาข่ายสำหรับผ้าละเอียดอ่อน หากเสื้อยืดมีเนื้อผ้าที่ละเอียดอ่อน หรือมีลายปัก/สกรีนที่ต้องการถนอม ควรใส่ในถุงตาข่ายก่อนนำเข้าเครื่องซักผ้า

 

การดูแลเสื้อยืดให้ดูดีและอยู่กับเราไปนานๆ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่หลายคนทำกันโดยไม่รู้ตัวด้วยความเคยชิน แนะนำให้ทุกคนลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ แล้วคุณจะพบว่าเพียงแค่เราจัดการต้นเหตุหรือต้นตอได้ ปัญหาความหมองความเหลือง เสื้อย้วย หรือเสื้อหดก็จะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นน้อยมากแน่นอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *