วิธีดูแลเสื้อกีฬาให้เหมือนใหม่ เคล็ดลับซักและเก็บรักษาให้สีไม่ซีด

วิธีดูแลเสื้อกีฬาให้เหมือนใหม่ เคล็ดลับซักและเก็บรักษาให้สีไม่ซีด

วิธีดูแลเสื้อกีฬาให้เหมือนใหม่ เคล็ดลับซักและเก็บรักษาให้สีไม่ซีด

เสื้อกีฬาไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกายสำหรับออกกำลังกายเพียงเท่านั้น แต่หลายคนยังนำมาใส่ในชีวิตประจำวันเพื่อความสบายและตามเทรนด์แฟชั่นอีกด้วย ทำให้การดูแลรักษาเสื้อกีฬาให้เหมือนใหม่อยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การซักและเก็บรักษาที่ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งาน รักษาเนื้อผ้า สีสัน และป้องกันกลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองมาดูเคล็ดลับที่อาจเป็นข้อมูลที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

 

ข้อควรระวังในการซักเสื้อกีฬาแต่ละประเภท

การซักเสื้อกีฬาไม่ได้เหมือนกันทุกแบบ เพราะเสื้อแต่ละชนิดมีเนื้อผ้าและดีไซน์ที่แตกต่างกัน การรู้วิธีซักที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันเสื้อจากความเสียหายได้ โดยเราขอจำแนกการซักตามประเภทของเสื้อกีฬา ดังนี้

 

เสื้อกีฬาใยสังเคราะห์ (Polyester, Nylon, Spandex)

สำหรับผ้าประเภทนี้สามารถซักเครื่องได้ แต่ควรระมัดระวังด้วยเหมือนกัน ต้องบอกก่อนว่าเสื้อกีฬาประเภทนี้ส่วนใหญ่สามารถซักเครื่องได้สบายๆ แต่ “ควรใส่ถุงซักผ้าเสมอ” เพื่อป้องกันเสื้อพันกัน เสียรูปทรง หรือถูกเกี่ยวจากซิปหรือตะขอของเสื้อผ้าชิ้นอื่นในถังซัก ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง ห้ามใช้น้ำร้อนเด็ดขาด เนื่องจากความร้อนสูงเป็นศัตรูตัวร้ายของใยสังเคราะห์ เพราะจะทำให้เส้นใยเสื่อมสภาพเร็ว ย้วย หรือหดตัว และอาจทำให้สีซีดจางลงได้ งดใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มจะไปเคลือบเส้นใย ทำให้คุณสมบัติการระบายเหงื่อและการระบายอากาศของผ้าลดลง ผ้าจะดูดซับเหงื่อได้ไม่ดีและแห้งช้าลง และอาจทำให้เกิดคราบเหนียวบนเสื้อได้ แอบบอกทริคเล็กๆ การซักกลับด้านในออก จะช่วยรักษาสีและลายพิมพ์ของเสื้อ

 

เสื้อกีฬาที่มีลายพิมพ์สกรีน หรือลายยาง

พอมีลายสกรีนก็ต้องใส่ใจขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยเราขอแนะนำให้พลิกด้านในออกก่อนซักเสมอ เพื่อป้องกันลายสกรีนแตก ลอก หรือเสียหายจากการเสียดสีระหว่างการซัก และถ้าหากเป็นไปได้ ก็บอกเลยว่าการซักมือคือทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะถนอมลายพิมพ์ได้ดีที่สุด โดยเน้นการขยี้เบาๆ บริเวณคราบสกปรก และที่สำคัญนั้นคือ ห้ามรีดทับลายสกรีนโดยตรง หากจำเป็นต้องรีด ให้รีดจากด้านใน หรือใช้ผ้าบางๆ รองทับก่อนรีด และใช้ไฟอ่อน

 

เสื้อกีฬาผ้าฝ้ายผสม (Cotton)

สำหรับเสื้อที่ที่คอตตอนผสมนั้นก็สามารถซักได้ตามปกติ แต่ระวังการหดตัว เนื่องจากผ้าคอตตอนอาจมีโอกาสหดตัวได้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อซักด้วยน้ำร้อนหรืออบด้วยความร้อนสูง และไม่แนะนำสำหรับออกกำลังกายหนัก แม้เสื้อผสมคอตตอนจะใส่สบายก็จริง แต่ถ้าเหงื่อออกเยอะ ผ้าคอตตอนจะอมเหงื่อและแห้งช้า ทำให้รู้สึกหนักและอับชื้นได้ง่ายนั่นเอง

 

วิธีขจัดคราบเหงื่อ คราบสกปรกฝังแน่นบนเสื้อกีฬา

คราบเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกฝังแน่นเป็นปัญหาใหญ่ของเสื้อกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายหนักๆ และถ้าหากเราปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจเกิดคราบเหลืองและกลิ่นอับได้ ดังนั้นเราขอแนะนำให้ “แช่ในน้ำเย็นผสมน้ำส้มสายชู” สำหรับคราบเหงื่อและกลิ่นอับฝังแน่น ให้แช่เสื้อกีฬาในน้ำเย็นที่ผสมน้ำส้มสายชูขาวประมาณ 1 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 4-5 ลิตร ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนนำไปซักตามปกติ น้ำส้มสายชูจะช่วยสลายคราบและลดกลิ่นอับได้ดี เนื่องจากการแช่ในน้ำส้มสายชูจะช่วยเปิดเส้นใยผ้า ทำให้สิ่งสกปรกและกลิ่นที่ติดอยู่หลุดออกได้ง่ายขึ้น และจะไม่ทิ้งกลิ่นน้ำส้มสายชูไว้หลังซักและตากแห้ง

 

หรือหากใครที่ไม่ชอบกลิ่นของน้ำส้มสายชูก็สามารถ “ใช้เบกกิ้งโซดา” แทนได้ ยิ่งคราบหนักยิ่งดี เพราะการโรยเบกกิ้งโซดาลงบนบริเวณคราบเหงื่อ (โดยเฉพาะใต้วงแขน) ที่เปียกเล็กน้อย ทิ้งไว้สักพัก ประมาณ 15-30 นาทีแล้วค่อยๆ ขัดเบาๆ ก่อนนำไปซัก เบกกิ้งโซดาจะช่วยดูดซับและสลายคราบไขมันจากเหงื่อ หรือใครที่ไม่อยากใช้อะไรที่ยุ่งยาก มันก็จะมีน้ำยาซักผ้าสำหรับเสื้อกีฬาโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีน้ำยาซักผ้าบางชนิดที่ออกแบบมาเพื่อเสื้อผ้ากีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะไม่มีส่วนผสมของน้ำยาปรับผ้านุ่ม และมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดคราบโปรตีนและไขมันจากเหงื่อได้ดีกว่าน้ำยาซักผ้าทั่วไป อย่าลืมที่จะพยายามซักเสื้อกีฬาให้เร็วที่สุดหลังการใช้งาน เพราะการทิ้งเสื้อกีฬาที่เปียกเหงื่อไว้นานๆ จะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโต เกิดกลิ่นอับและคราบฝังแน่นได้ง่าย

 

การตากและเก็บรักษาเสื้อกีฬาไม่ให้ย้วย เสียทรง หรือมีกลิ่นอับ

ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้การซัก เพื่อให้เสื้อกีฬาคงสภาพเหมือนใหม่ เราควรตากในที่ร่ม มีลมโกรก ห้ามตากแดดจัดโดยตรงเด็ดขาด เพราะแสงแดดจัดโดยเฉพาะรังสียูวี จะทำให้สีเสื้อซีดจางลงอย่างรวดเร็ว และทำลายเส้นใยใยสังเคราะห์ ทำให้ผ้ากรอบและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี ลมโกรก จะช่วยให้เสื้อแห้งเร็วและสีไม่ซีด ทริคเล็กๆ ที่หลายคนไม่รู้คือการตากเสื้อกีฬาในแนวราบ (วางบนตะแกรง) แทนการแขวน จะช่วยป้องกันเสื้อย้วยหรือเสียทรง โดยเฉพาะเสื้อที่ทำจากผ้าเนื้อนิ่มหรือมีน้ำหนัก

 

หลีกเลี่ยงการอบผ้าด้วยความร้อนสูง เช่นเดียวกับการซักด้วยน้ำร้อน ความร้อนสูงจากการอบผ้าจะทำให้เสื้อกีฬาหดตัว ย้วย หรือเส้นใยเสื่อมสภาพ ควรใช้การอบด้วยอุณหภูมิต่ำ หรือตากลมให้แห้งตามธรรมชาติ ในเรื่องของการเก็บ ก็ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่อับชื้น เมื่อเสื้อแห้งสนิทแล้ว ควรเก็บในตู้เสื้อผ้าที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท ไม่ควรเก็บในที่อับชื้น เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นอับหรือเชื้อราได้ เรื่องของการพับเสื้อกีฬา ก็ไม่ควรพับจนแน่นเกินไปอาจทำให้เกิดรอยยับถาวร หรือทำให้รูปทรงของเสื้อผิดเพี้ยนไปได้ ควรจัดเก็บให้เรียบร้อย ไม่เบียดเสียดกัน สำหรับเสื้อกีฬาที่ไม่ควรย้วย ควรใช้ไม้แขวนเสื้อที่มีขนาดพอดีกับไหล่ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป และหากเป็นไปได้ เลือกไม้แขวนเสื้อที่มีบ่ากว้างเพื่อช่วยพยุงทรงเสื้อ

 

การดูแลเสื้อกีฬาอย่างถูกวิธี ไม่ใช่แค่ช่วยประหยัดเงินในการซื้อเสื้อใหม่บ่อยๆ แต่ยังช่วยให้คุณมั่นใจในทุกครั้งที่สวมใส่ ไม่ว่าจะไปออกกำลังกาย หรือนำมามิกซ์แอนด์แมทช์เป็นแฟชั่นในชีวิตประจำวันก็ตาม เพราะไม่มีใครอยากสวมหรือใส่เสื้อที่มีกลิ่นอับ หรือสีซีด ทรงย้วยกันหรอกจริงไหม?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *