วิธีเลือกกระเป๋าให้เหมาะกับรูปร่าง ต้องเลือกแบบไหนถึงจะดี

วิธีเลือกกระเป๋าให้เหมาะกับรูปร่าง ต้องเลือกแบบไหนถึงจะดี

วิธีเลือกกระเป๋าให้เหมาะกับรูปร่าง ต้องเลือกแบบไหนถึงจะดี

สะพายแบบไหนให้ดูดี มีสไตล์ ในบทความนี้จะให้คำแนะนำในการเลือกรูปทรง ขนาด และสไตล์ของกระเป๋าให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งาน ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบไหน ผอมสูง อวบ หรือตัวเล็กตัวสั้น เรามีครบถ้วนให้กับเหล่าผู้อ่าน เพื่อเสริมบุคลิกและทำให้ดูดีขึ้นเมื่อสะพาย

 

การเลือกกระเป๋าให้เข้ากับรูปร่างนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่เป็นศิลปะในการสร้างสมดุลและเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนอาจเลือกกระเป๋าจากดีไซน์ที่ชอบหรือแบรนด์ที่นิยม แต่แท้จริงแล้ว การทำความเข้าใจสรีระของตนเองและการเลือกรูปทรง ขนาด รวมถึงวิธีการสะพายให้เหมาะสม จะช่วยยกระดับสไตล์ของคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

หัวใจสำคัญของการเลือกกระเป๋าคืออะไร

หลักการง่ายๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามไปคือ “การสร้างสมดุล” หรือ “Balance” ในการแต่งกาย กระเป๋าที่เราสะพายเป็นเหมือนส่วนขยายของร่างกาย หากเลือกทรงหรือขนาดที่เหมาะสม จะช่วยพรางจุดด้อยและเสริมจุดเด่นของรูปร่างได้

 

สำหรับผู้ที่มี “รูปร่างผอมสูง” (Tall and Lean)

ผู้ที่มีรูปร่างผอมสูงมักจะมีช่วงลำตัวที่ยาวและผอมเพรียว การเลือกกระเป๋าที่ช่วยเพิ่ม “วอลลุ่ม” หรือ “ความกว้าง” จะช่วยให้รูปร่างดูสมส่วนยิ่งขึ้น

 

รูปทรงที่แนะนำก็จะมี กระเป๋าทรงกว้าง นั่นก็คือกระเป๋า Hobo หรือ Shoulder Bag ทรงกว้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นกระเป๋าทรงโค้งมน หรือทรงที่เน้นความกว้าง จะช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับช่วงลำตัวที่สูงและผอมเพรียว

 

กระเป๋าทรงเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน หรือที่เรียกว่า Rectangular Horizontal Bag โดยกระเป๋าทรงนี้จะช่วย “ตัด” ความยาวของช่วงลำตัว ทำให้ดูไม่สูงเกินไปจนดูผอมแห้งแรงน้อย

 

กระเป๋าที่มีดีเทลเยอะ หรือที่เรียกว่า Embellished Bag โดยแต่ละใบกระเป๋าก็จะมีลักษณะที่มีพวกของประดับตกแต่งต่างๆ อย่างเช่น พู่ประดับ, โซ่, หรือการตกแต่งที่น่าสนใจ จะช่วยดึงดูดสายตาและเพิ่มมิติให้กับรูปร่าง

 

ขนาดหรือไซส์ที่แนะนำ เราขอแนะนำเป็น ขนาดกลางถึงใหญ่ เนื่องจากการเลือกกระเป๋าขนาดกลางถึงใหญ่จะช่วยเสริมให้รูปร่างดูมีน้ำมีนวลและสมส่วน ไม่ควรเลือกกระเป๋าใบเล็กจิ๋วเพราะจะยิ่งทำให้รูปร่างดูผอมและสูงกว่าเดิม

 

วิธีการสะพายที่แนะนำ

จะมีการสะพายข้าง (Shoulder Bag) โดยให้กระเป๋าตกอยู่ที่บริเวณสะโพก จะช่วยเพิ่มความกว้างให้กับช่วงล่าง, สะพายไขว้ลำตัว (Crossbody Bag) หากเลือกสะพายไขว้ ควรให้กระเป๋าตกอยู่บริเวณสะโพก หรือช่วงเอวที่กว้างขึ้น จะช่วยสร้างเส้นแบ่งในแนวขวาง และ ถือด้วยมือ (Handheld) การถือกระเป๋าคล้องแขนหรือถือด้วยมือ จะช่วยดึงดูดสายตาไปที่ช่วงแขนและลำตัวส่วนบน

 

สำหรับผู้ที่มี “รูปร่างอวบ” (Curvy or Plus Size)

ผู้ที่มีรูปร่างอวบอาจต้องการกระเป๋าที่ช่วย “ยืด” ช่วงลำตัวให้ดูสูงโปร่งขึ้น และไม่เพิ่มความกว้างให้กับส่วนที่ไม่อยากเน้น

 

รูปทรงที่แนะนำก็จะมี กระเป๋าทรงสูง หรือ Vertical Bag จะเป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง หรือกระเป๋าทรงถุง (Tote Bag) จะช่วยสร้างเส้นสายในแนวตั้ง ทำให้รูปร่างดูสูงโปร่งขึ้น

 

กระเป๋าทรงเรขาคณิตที่ดูคมชัด หรือเรียกว่า Structured Geometric Bag จะเป็นทรงที่ดูเป็นระเบียบจะช่วยให้รูปร่างดูกระชับขึ้น

 

ขนาดหรือไซส์ที่แนะนำ ควรเป็นขนาดกลาง ไม่ควรเลือกกระเป๋าที่เล็กเกินไปเพราะจะทำให้รูปร่างดูใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับกระเป๋า และไม่ควรเลือกกระเป๋าที่ใหญ่เทอะทะเกินไป เพราะจะยิ่งเพิ่มมิติให้กับรูปร่างโดยไม่จำเป็น

 

วิธีการสะพายที่แนะนำ

ก็จะมีทั้ง สะพายไหล่ (Shoulder Bag) โดยให้กระเป๋าตกอยู่บริเวณที่แคบที่สุดของลำตัว เช่น บริเวณเอว หรือช่วงบนของสะโพก เพื่อดึงสายตาไปที่ส่วนนั้น และ การถือคล้องแขน (Arm Carry) จะช่วยเสริมให้ช่วงแขนดูเรียวขึ้น

 

**ข้อหลีกเลี่ยง : การสะพายกระเป๋าไขว้ลำตัวที่กระเป๋าตกอยู่บริเวณหน้าท้องหรือสะโพกเต็มๆ เพราะจะยิ่งเน้นส่วนนั้น

 

สำหรับผู้ที่มี “รูปร่างเตี้ยหรือตัวเล็ก” (Petite)

ผู้ที่มีรูปร่างเล็กหรือไม่สูงนั้น ควรเลือกกระเป๋าที่ช่วยยืดช่วงลำตัวให้ดูสูงขึ้น และไม่ทำให้รูปร่างดูสั้นหรือถูกกระเป๋าบดบัง

 

รูปทรงที่แนะนำก็จะมี กระเป๋าทรงสูงหรือทรงเหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง จะช่วยสร้างเส้นสายในแนวตั้ง ทำให้ดูสูงโปร่งขึ้น และกระเป๋าทรงที่ดูไม่เทอะทะ ที่เขาเรียกกันว่า Proportional Shape จะเป็นทรงที่ไม่ใหญ่หรือกว้างจนเกินไปเมื่อเทียบกับรูปร่าง

 

ขนาดหรือไซส์ที่แนะนำ ก็คือขนาดเล็กถึงกลาง กระเป๋าขนาดเล็กหรือกลางจะเหมาะสมกับสรีระ ไม่ควรเลือกกระเป๋าที่ใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ดูเหมือนถูกกระเป๋า “กลืน” เข้าไป

 

วิธีการสะพายที่แนะนำ

จะมีทั้งการสะพายไหล่ (Shoulder Bag) โดยให้กระเป๋าตกอยู่บริเวณช่วงเอวหรือสะโพกส่วนบน ไม่ควรปล่อยให้สายยาวเกินไปจนกระเป๋าตกถึงบริเวณต้นขา เพราะจะทำให้ดูเตี้ยลง, สะพายไขว้ลำตัว (Crossbody Bag) หากสะพายไขว้ ควรปรับสายให้กระเป๋าอยู่สูงขึ้น ไม่เลยช่วงสะโพก และ การถือด้วยมือ (Handheld or Top Handle) การถือกระเป๋าแบบถือด้วยมือจะช่วยเพิ่มความสูงของจุดสนใจ และไม่ทำให้รูปร่างดูสั้น

 

เกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเป๋า

หลังจากที่เราดูขนาดหรือไซส์ของเราแล้ว ได้เลือกกระเป๋า ทรงกระเป๋าที่ต้องการแล้วนั้น มันก็ยังมีเกร็ดข้อมูลเล็กน้อยที่อยากแนะนำ ก็จะมีดังต่อไปนี้

 

สายสะพายเป็นสิ่งสำคัญ

ความยาวและขนาดของสายสะพายมีผลต่อการมองเห็นสรีระ หากคุณมีรูปร่างผอมสูง สายสะพายที่ยาวและบางอาจจะช่วยเสริมความเพรียว แต่หากคุณมีรูปร่างอวบหรือเตี้ย สายสะพายที่ปรับให้สั้นลงและมีความกว้างพอเหมาะจะช่วยสร้างสมดุลได้ดีกว่า

 

ตำแหน่งของกระเป๋า

จุดที่กระเป๋าตกกระทบกับร่างกายนั้นสำคัญมาก ควรให้กระเป๋าอยู่บริเวณส่วนที่เราต้องการเน้น หรือส่วนที่ช่วยพรางสัดส่วนที่ไม่ต้องการเน้น

 

สีและลวดลาย

สีทึบหรือลวดลายเล็กๆ มักจะให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและไม่ดึงดูดสายตามากเกินไป ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการพรางรูปร่าง ส่วนสีสันสดใสหรือลวดลายขนาดใหญ่จะช่วยดึงดูดสายตาไปยังกระเป๋า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มจุดเด่น

 

วัสดุของกระเป๋า

กระเป๋าที่ทำจากวัสดุที่มีโครงสร้างแข็งแรง (Structured Bag) มักจะให้ลุคที่ดูเป็นทางการและช่วยเสริมรูปร่างให้ดูคมชัด ในขณะที่กระเป๋าที่ทำจากวัสดุที่นุ่มและยืดหยุ่น (Unstructured Bag) จะให้ลุคที่ดูสบายๆ และผ่อนคลาย

 

การเลือกกระเป๋าให้เหมาะสมกับรูปร่างนั้น ไม่ได้หมายถึงการปิดกั้นตัวเองจากสไตล์ที่ชอบ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะใช้กระเป๋าเป็นเครื่องมือในการเสริมบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เพียงแค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คุณก็สามารถสะพายกระเป๋าได้อย่างดูดีและมีสไตล์ในแบบที่เป็นตัวคุณได้อย่างแท้จริง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *