สิ่งที่ไม่ควรทำกับกระเป๋า เลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายกระเป๋าของเรากัน

สิ่งที่ไม่ควรทำกับกระเป๋า เลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายกระเป๋าของเรากัน

สิ่งที่ไม่ควรทำกับกระเป๋า เลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายกระเป๋าของเรากัน

กระเป๋าเป็นมากกว่าแค่เครื่องประดับหรืออุปกรณ์ใช้สอยในชีวิตประจำวัน มันคือส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพและการแต่งตัวของเราอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการดูแลรักษากระเป๋าอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนรักกระเป๋าต้องให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง นอกจากการทำความสะอาดและจัดเก็บแล้ว ยังมีพฤติกรรมบางอย่างที่เราอาจทำไปโดยไม่รู้ตัวทำให้กระเป๋าเราเสียหายได้

 

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

พฤติกรรมที่เราเผลอตัวทำไปหลายอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นสามารถทำลายกระเป๋าใบโปรดของเราได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการเรียนรู้และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้กระเป๋าของคุณคงสภาพดี สวยงาม และไร้กลิ่นไปได้นานเท่านานเลยล่ะนะ โดยก็จะมี

 

ไม่ใส่ของเปียกลงกระเป๋าโดยตรง

พฤติกรรมที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่กลับเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของกลิ่นอับและคราบสกปรกในกระเป๋าคือการ ใส่ของเปียกลงกระเป๋าโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นร่มที่เพิ่งใช้ตอนฝนตก ขวดน้ำที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ เสื้อผ้าออกกำลังกายที่ชุ่มเหงื่อ หรือแม้กระทั่งผลไม้ที่ล้างแล้วยังไม่แห้งสนิท สิ่งเหล่านี้ล้วนนำพาความชื้นเข้าสู่ภายในกระเป๋าโดยตรง

 

เมื่อความชื้นสะสมอยู่ภายในกระเป๋า โดยเฉพาะในช่องด้านในที่อากาศไม่ถ่ายเท ความชื้นเหล่านั้นจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของ แบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นอับที่ยากจะกำจัด ยิ่งไปกว่านั้น คราบน้ำจากร่มเปียกหรือขวดน้ำอาจทิ้งรอยด่างบนซับในกระเป๋า หรือหากเป็นกระเป๋าที่ทำจากหนังกลับหรือวัสดุที่บอบบาง คราบน้ำอาจทำให้เกิดรอยถาวรหรือสีเปลี่ยนได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ จึงควรมี ถุงพลาสติก ถุงผ้ากันน้ำ หรือปลอกร่ม พกติดตัวไว้เสมอ เพื่อใช้แยกของเปียกออกจากสิ่งของอื่นๆ ในกระเป๋า และเมื่อกลับถึงบ้าน ควรรีบนำของเปียกออกจากกระเป๋าและเปิดกระเป๋าทิ้งไว้ให้ระบายอากาศ เพื่อให้มั่นใจว่าภายในกระเป๋าแห้งสนิทก่อนที่จะปิดเก็บ

 

ไม่วางกระเป๋าบนพื้นสกปรก

หลายคนมักเผลอวางกระเป๋าลงบนพื้นโดยไม่ทันคิด ไม่ว่าจะเป็นพื้นห้องน้ำสาธารณะ พื้นร้านอาหาร พื้นทางเท้า หรือพื้นขนส่งสาธารณะ พฤติกรรมนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายอะไรนัก แต่แท้จริงแล้วการวางกระเป๋าบนพื้นสกปรกเป็นการเปิดประตูให้ คราบสกปรก เชื้อโรค แบคทีเรีย หรือแม้กระทั่งความชื้น จากภายนอกเข้ามาเกาะติดบนพื้นผิวกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย

 

พื้นที่สาธารณะต่างๆ ล้วนปนเปื้อนด้วยสิ่งที่เรามองไม่เห็น เช่น ฝุ่นละออง คราบสกปรกจากรองเท้า ละอองน้ำลาย เชื้อโรคจากคนจำนวนมาก หรือแม้แต่เศษอาหารที่หกอยู่บนพื้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกาะติดอยู่บนก้นกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย และเมื่อนำกระเป๋าใบนั้นกลับบ้านแล้ววางไว้บนโซฟา เตียงนอน หรือโต๊ะทำงาน เชื้อโรคและสิ่งสกปรกก็จะแพร่กระจายไปตามที่ต่างๆ ได้ การสัมผัสโดยตรงกับพื้นสกปรกยังอาจทำให้เกิด รอยขีดข่วน รอยถลอก บนวัสดุที่บอบบาง เช่น หนัง หรือทำให้ผ้าสกปรกและมีคราบฝังแน่นที่ยากต่อการทำความสะอาด วิธีที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการวางกระเป๋าลงบนพื้นโดยตรง หากไม่มีที่แขวนกระเป๋า ควรวางกระเป๋าบนเก้าอี้ โต๊ะ หรือบนผ้าเช็ดหน้าสะอาดๆ ที่พกติดตัวไว้ก็ได้ การดูแลเล็กๆ น้อยๆ นี้ จะช่วยรักษาสุขอนามัยและรักษาสภาพกระเป๋าให้สวยงามยาวนาน

 

ไม่ฉีดน้ำหอมใส่กระเป๋าโดยตรง

ความต้องการให้กระเป๋ามีกลิ่นหอมสดชื่นเป็นเรื่องปกติ แต่คุณอาจไม่รู้ว่าการที่ฉีดน้ำหอมใส่กระเป๋าโดยตรง คือพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าน้ำหอมจะให้กลิ่นหอมชั่วคราว แต่ส่วนผสมในน้ำหอม โดยเฉพาะแอลกอฮอล์ อาจทิ้ง คราบด่าง คราบเหลือง หรือทำปฏิกิริยาเคมีกับวัสดุบางชนิดของกระเป๋า เช่น หนัง ผ้าสังเคราะห์ หรือแม้แต่ซับใน ทำให้สีซีดจางลงหรือเกิดความเสียหายได้

 

ที่สำคัญกว่านั้น กลิ่นน้ำหอมเมื่อผสมผสานกับความชื้นและแบคทีเรียที่สะสมอยู่ภายในกระเป๋า อาจเกิดปฏิกิริยาและกลายเป็น กลิ่นเหม็นอับ ที่ฉุนกว่าเดิมและยากต่อการกำจัดออกไป การฉีดน้ำหอมโดยตรงยังทำให้กลิ่นหอมนั้น “ติด” อยู่กับกระเป๋าอย่างถาวร ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนกลิ่นหรือความรู้สึกของกระเป๋าได้เมื่อต้องการ เพื่อให้กระเป๋าหอมสดชื่นอย่างปลอดภัย ควรฉีดน้ำหอมลงบน สำลี ผ้าชิ้นเล็กๆ หรือกระดาษซับน้ำหอม ทิ้งไว้ให้แห้งสักครู่ แล้วค่อยนำไปใส่ไว้ในช่องเล็กๆ ของกระเป๋า หรือใส่ไว้ในถุงผ้าโปร่งเล็กๆ วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายตัวอย่างอ่อนโยนและสามารถเปลี่ยนหรือเติมกลิ่นได้ตามต้องการ โดยไม่ทิ้งคราบหรือทำลายวัสดุของกระเป๋า

 

ไม่เก็บกระเป๋าไว้ในที่อับชื้นนานๆ

การจัดเก็บกระเป๋าในที่ที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญของการถนอมกระเป๋า แต่พฤติกรรมที่หลายคนเผลอทำคือการ เก็บกระเป๋าไว้ในที่อับชื้นนานๆ ไม่ว่าจะเป็นในรถยนต์ที่จอดตากแดดเป็นประจำ ซึ่งทำให้ภายในรถมีอุณหภูมิสูงและมีความชื้นสะสม หรือการเก็บกระเป๋าในตู้เสื้อผ้าที่ปิดมิดชิด ไม่มีอากาศถ่ายเท หรืออยู่ในห้องที่มีความชื้นสูงโดยไม่ได้เปิดระบายอากาศ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำลายกระเป๋าอย่างช้าๆ

 

ในสภาวะที่อับชื้นและอุณหภูมิสูง เชื้อราและแบคทีเรีย จะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิด กลิ่นอับชื้น ที่ฝังแน่นในเนื้อผ้าและหนังของกระเป๋า ซึ่งเป็นกลิ่นที่ยากจะขจัดออกไปได้หมด และอาจทิ้งคราบราสีดำหรือสีเขียวไว้บนกระเป๋าได้ นอกจากนี้ ความชื้นยังเป็นสาเหตุให้ หนังแห้งกรอบ แตกเป็นรอย หรือทำให้วัสดุอื่นๆ เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่น กาวที่ยึดติดส่วนต่างๆ อาจเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้กระเป๋าปริแตกได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรนำกระเป๋าออกจากรถยนต์เมื่อจอดทิ้งไว้นานๆ และควรจัดเก็บกระเป๋าใน ถุงผ้ากันฝุ่น พร้อม ยัดไส้กระเป๋า และวางไว้ใน ตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หากตู้เสื้อผ้าอับทึบ ควรเปิดประตูตู้ระบายอากาศบ้างเป็นครั้งคราว และวางสารดูดความชื้น เช่น ถ่านไม้ไผ่ หรือซิลิกาเจล ไว้ภายในตู้เสมอ การลงทุนในสภาพแวดล้อมการจัดเก็บที่ดี จะช่วยรักษาสภาพและยืดอายุการใช้งานของกระเป๋าใบโปรดได้อย่างมหาศาล

 

หากเราสามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำพฤติกรรมข้างต้นได้ ก็จะช่วยทำให้กระเป๋าของเราปลอดภัยจากพฤติกรรมที่น่ากังวลกว่าที่คิดเลยล่ะ ที่เหลือก็เพียงแค่ต้องหมั่นทำความสะอาดกระเป๋าและเคลียร์พวกเศษกระดาษหรือขยะชิ้นเล็กๆ ที่ไม่จำเป็น ซึ่งเราก็ได้เขียนลงบทความก่อนหน้าไปแล้วเกี่ยวกับการเคลียร์ของ บอกเลยว่ายิ่งของไม่เยอะ ยิ่งหยิบจับของอะไรใช้ง่ายและสะดวกกว่าเยอะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *