เสื้อกีฬากับหน้าฝน เลือกยังไงให้พร้อมลุย ไม่เปียก ไม่อับ ไม่ชื้น

ถึงแม้จะเป็นหน้าฝนที่มีฝนโปรยปรายหรือตกหนัก ซึ่งสายฝนก็ไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมกลางแจ้ง หรือแม้แต่การเดินทางในชีวิตประจำวันของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักการออกกำลังกาย หรือชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์สปอร์ต การเลือกเสื้อกีฬาที่เหมาะสมสำหรับวันฝนตกเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัว แห้งเร็ว และพร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศได้อย่างมั่นใจ

คุณสมบัติเสื้อกีฬาสำหรับหน้าฝน

หัวใจสำคัญของเสื้อกีฬาสำหรับวันฝนตกคือคุณสมบัติของเนื้อผ้า ที่จะช่วยปกป้องคุณจากความเปียกชื้นและคงความสบายตัวไว้ได้ แน่นอนว่าต้องแห้งเร็วหรือกันน้ำได้จะเป็นการดี โดยควรมีคุณสมบัติกันละอองน้ำ (Water-repellent) เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัตินี้จะช่วยให้หยดน้ำกลิ้งตัวออกจากพื้นผิวผ้า ไม่ซึมเข้าไปในเนื้อผ้าทันที เหมาะสำหรับฝนปรอยๆ หรือละอองฝนทั่วไป ไม่ใช่ฝนที่ตกหนักมาก ข้อดีคือเนื้อผ้ามักจะเบาและระบายอากาศได้ดีกว่าแบบกันน้ำสนิท ผ้าที่มีคุณสมบัตินี้มักจะมาจากการเคลือบสาร DWR (Durable Water Repellent) บนพื้นผิวผ้า ซึ่งอาจเสื่อมสภาพได้เมื่อซักบ่อยๆ แต่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยสเปรย์หรือน้ำยาซักผ้าที่มีคุณสมบัติ DWR เพื่อคงประสิทธิภาพการกันน้ำไว้

ต่อมาก็จะเป็นคุณสมบัติกันน้ำ (Waterproof) เสื้อผ้าที่กันน้ำสนิทจะสามารถป้องกันน้ำซึมผ่านได้ 100% เหมาะสำหรับวันที่ฝนตกหนักหรือกิจกรรมที่ต้องอยู่กลางฝนเป็นเวลานาน มักจะมาพร้อมกับตะเข็บแบบซีล (Sealed Seams) เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าตามรอยเย็บ ซึ่งเสื้อกันน้ำที่ดีมักจะมีค่า “Breathability” หรือ “การระบายอากาศ” ที่ระบุเป็น g/m²/24hr ด้วย เพราะแม้จะกันน้ำได้ดีแค่ไหน ถ้าไม่ระบายอากาศเลย คุณก็อาจจะรู้สึกอบอ้าวและเปียกชื้นจากเหงื่อตัวเองอยู่ดี และคุณสมบัติแห้งเร็ว (Quick-dry / Moisture-wicking) ก็สำคัญ ไม่ว่าเสื้อจะกันน้ำได้ดีแค่ไหน เหงื่อก็ยังคงออกอยู่ดี เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติแห้งเร็วหรือระบายเหงื่อ จะช่วยดึงเหงื่อออกจากผิวหนังไปยังพื้นผิวผ้าด้านนอก ทำให้รู้สึกแห้งสบายตัวตลอดเวลา และเมื่อเสื้อโดนฝนแต่ไม่ได้เปียกโชกจนซึมเข้าไป ก็จะแห้งได้อย่างรวดเร็ว

ประเภทของเสื้อกีฬาที่เหมาะกับวันฝนตก

การเลือกประเภทเสื้อผ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เพราะประเภทของเสื้อกีฬาก็ไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว แต่ที่เหมาะกับวันที่ฝนตกจริงๆ ก็จะมีอยู่ดังนี้

: เสื้อแจ็คเก็ตกันลม (Windbreaker) เป็นเสื้อชั้นนอกที่เหมาะสำหรับฝนปรอยๆ และลมแรง น้ำหนักเบา พกพาง่าย และมักจะมีคุณสมบัติกันละอองน้ำได้ดี สามารถสวมทับเสื้อยืดกีฬาด้านในเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและป้องกันลม

: เสื้อคลุมกันฝน (Rain Jacket) สำหรับฝนที่ตกหนักขึ้น เสื้อคลุมกันฝนที่มีคุณสมบัติ Waterproof และมีฮู้ดคลุมศีรษะคือสิ่งที่จำเป็น เสื้อประเภทนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานและมีประสิทธิภาพในการกันน้ำสูง

: เสื้อยืดระบายอากาศ (Moisture-wicking T-shirt) สำหรับเลเยอร์ด้านใน ไม่ว่าเสื้อชั้นนอกจะดีแค่ไหน เสื้อชั้นในก็สำคัญ ควรเลือกเสื้อยืดที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ที่ระบายเหงื่อได้ดี เพื่อให้เหงื่อไม่สะสมอยู่บนผิวหนัง แม้เสื้อคลุมด้านนอกจะเปียก แต่คุณก็ยังรู้สึกสบายตัวอยู่

เรื่องของ “สี” เสื้อกีฬาก็สำคัญไม่แพ้กัน

สีของเสื้อกีฬาในวันฝนตก ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของแฟชั่น แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยด้วย อย่างการเลือกสีเข้ม (Dark Tones) พวกดำ เทา กรมท่า หรือน้ำตาลเข้ม เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องและควรอย่างมาก เพราะสามารถซ่อนรอยเปื้อนจากน้ำกระเซ็น หรือคราบโคลนได้ดีกว่าสีอ่อน ทำให้เสื้อดูไม่สกปรกง่ายหลังลุยฝน

แต่ถ้าหากคุณมีกิจกรรมที่ต้องอยู่ในที่มืดหรือพลบค่ำ เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเดินริมถนนในวันที่ฝนตก การเลือก สีนีออนสะท้อนแสง (Neon/High-Visibility Colors) เสื้อสีนีออนจัดๆ อย่างเหลืองนีออน ส้มนีออน หรือชมพูนีออน จะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับผู้ขับขี่หรือคนอื่นๆ ทำให้คุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเสื้อกีฬาบางรุ่นมีการใส่แถบสะท้อนแสงที่จะสะท้อนแสงเมื่อโดนไฟ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำกิจกรรมกลางแจ้งในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดีเยี่ยม

แมทช์ชุดหน้าฝนให้มีสไตล์ได้ง่ายๆ

การผสมผสานเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณแต่งตัวได้ปังอย่างมีสไตล์ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องของฝนไปเลย ซึ่งเราขอแนะนำเป็น เสื้อชั้นนอกกันน้ำ/กันลมกับเสื้อยืดระบายอากาศ การสวมเสื้อยืดใยสังเคราะห์เป็นเสื้อตัวใน เพื่อดูดซับเหงื่อ จากนั้นคลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตกันลมหรือเสื้อคลุมกันฝน เพื่อปกป้องจากภายนอก ในส่วนของกางเกงขายาว การเลือกกางเกงวอร์มขายาว/จ็อกเกอร์ (Track Pants / Joggers) กางเกงที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน ที่มีคุณสมบัติแห้งเร็ว หลีกเลี่ยงกางเกงยีนส์เดนิม หรือผ้าคอตตอนหนาๆ เพราะจะอมน้ำและแห้งช้า ทำให้รู้สึกหนักและอับชื้น แต่ถ้าหากใครชอบกางเกงขาสั้น ก็เหมมาะกับคนที่ชอบความคล่องตัว กางเกงขาสั้นสำหรับกีฬาก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะไม่เปียกที่ปลายขา และแห้งเร็ว

ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวล ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “รองเท้า” เพราะจะต้องใส่ลุยน้ำและเปียกอย่างแน่นอน ก็แนะนำให้เลือกเป็นรองเท้ากันน้ำ (Waterproof Shoes) การเลือกรองเท้าผ้าใบที่มีคุณสมบัติกันน้ำ หรือรองเท้าเทรลที่ออกแบบมาเพื่อลุยน้ำลุยโคลน จะช่วยให้เท้าของคุณแห้งสบายตลอดวัน หรือใครไม่ชอบ อยากใส่สบายๆ หรือการเดินทางในระยะใกล้ๆ ก็ให้เลือกเป็นรองเท้าแตะสไตล์สปอร์ต (Sporty Sandals/Slides) การสวมรองเท้าแตะยาง หรือแตะสไตล์สปอร์ต เป็นทางเลือกที่ดี เพราะง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่ต้องกลัวเปียกและแห้งเร็ว

การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันฝนตก ไม่ได้หมายถึงการละทิ้งสไตล์การแต่งตัวของเราขนาดนั้น แต่เป็นการผสมผสานฟังก์ชันการใช้งานเข้ากับแฟชั่นได้อย่างลงตัว ทำให้คุณสามารถสนุกกับกิจกรรมต่างๆ และใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศแบบไหนก็ตาม