แต่งตัวยังไงให้เหมาะกับอากาศร้อน แฟชั่น 4 ฤดูในไทย
ใครๆ ก็บอกว่าประเทศไทยมี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด แต่พูดก็พูดเรายังมีฤดูหนาวปลอมสั้นๆ ที่มาให้ได้สัมผัสลมเย็นๆ บ้าง และอีกหนึ่งฤดูที่เราแสนจะรำคาญใจอย่างฤดูฝน ที่มาพร้อมความชื้นและฟ้าครึ้ม เลิกงานทีไรเป็นต้องตกทุกที แล้วควรแต่งตัวยังไงให้เหมาะกับอากาศร้อน ที่เป็นส่วนใหญ่ล่ะ การจะแต่งตัวให้อินกับแฟชั่นและยังคงความสบายตัวในสภาพอากาศแบบนี้ถือเป็นความท้าทายอยู่เหมือนกัน เพราะเสื้อผ้าที่ดูดีบนรันเวย์ในต่างประเทศอาจจะใส่แล้วเหนอะหนะ อึดอัด หรือไม่เหมาะกับอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสของบ้านเราเลยก็ว่าได้
การแต่งตัวในเมืองไทยไม่ใช่แค่การหยิบเสื้อผ้าบางๆ มาใส่ให้จบๆ ไป มันมีเรื่องของการเลือกชนิดผ้า สีเสื้อผ้า และไอเท็มเสริมที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวตลอดวัน ไม่ว่าจะเจอแดดเปรี้ยงๆ ฝนพรำๆ หรือลมหนาวปลอมๆ ก็เอาอยู่ และที่สำคัญคือยังคงดูดีมีสไตล์ ไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาบอกทริคดีๆ ให้ทุกคนรู้ไปพร้อมกัน
ทำความเข้าใจสภาพอากาศไทยก่อน
ก่อนจะไปถึงเรื่องเสื้อผ้า เราต้องเข้าใจธรรมชาติของอากาศบ้านเราก่อน โดยเราขอแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน
: ช่วงร้อนจัด (มีนาคม – พฤษภาคม) ช่วงนี้คือบททดสอบที่แข็งแกร่งสุดๆ เพราะมันแดดแรง แดดจัดมาก อุณหภูมิพุ่งสูง และความชื้นก็ไม่เป็นสองรองใคร เหงื่อไหลไคลย้อยกันง่ายๆ เลยทีเดียว
: ช่วงฝนพรำและชื้น (พฤษภาคม – ตุลาคม) อากาศช่วงนี้จะแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก ความชื้นในอากาศสูงมาก ทำให้เสื้อผ้าแห้งช้า และรู้สึกเหนอะหนะได้ง่าย
: ช่วงหนาวปลอม (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) ถึงจะเรียกว่าอากาศหนาวก็จริง แต่สำหรับหลายจังหวัดก็คือ เย็นสบาย หรือ หนาวเล็กน้อย เท่านั้น ที่อุณหภูมิอาจจะลดลงบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหนาวจัดจนต้องใส่โค้ทยาวแบบเมืองนอก ยิ่งตอนกลางวันก็ยังคงร้อนอยู่ดี หรือบางจังหวัดก็อาจหนาวสุดๆ อย่างพวกภาคเหนือแต่ก็เป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับโดยรวมของทั้งประเทศ
ซึ่ง ความชื้น นี่แหละคือตัวการสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวในสภาพอากาศเมืองไทย แม้เสื้อผ้าจะบางเบาแค่ไหน แต่ถ้าผ้าอมเหงื่อและระบายอากาศไม่ดี ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกเหนอะหนะ อึดอัด และเสื้อผ้าแห้งช้าลง
หลักการเลือก “เนื้อผ้า”
การเลือกชนิดผ้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวตลอดวัน ไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน
ผ้าฝ้าย (Cotton)
ผ้าฝ้าย 100% สามารถช่วยในเรื่องระบายอากาศได้ดีในอากาศแห้งและเย็นสบายก็จริง แต่ถ้าอากาศร้อนจัดและมีเหงื่อออกมาก มันจะ ดูดซับเหงื่อไว้เยอะมากและแห้งช้าสุดๆ ทำให้เสื้อผ้าหนักอึ้งและเหนอะหนะ ควรเลือกผ้าฝ้ายที่มี น้ำหนักเบา และ ทอแบบโปร่ง (เช่น ผ้าฝ้ายป๊อปลิน หรือผ้าฝ้ายบางๆ) หรือเลือก ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ ที่มีคุณสมบัติแห้งเร็วขึ้น
ผ้าลินิน (Linen)
ผ้าลินินคือตัวเอกของอากาศร้อนชื้นที่สุด เพราะมันมีคุณสมบัติในการ ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม และดูดซับความชื้นได้ดี แต่แห้งเร็วมาก ทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายตลอดวัน แม้จะยับง่ายไปหน่อย แต่รอยยับของผ้าลินินก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของมันนะ หากคุณเลือกผ้าชนิดนี้ มันก็จะเหมาะกับเสื้อเชิ้ต กางเกง เดรส หรือแม้แต่เสื้อคลุมบางๆ
ผ้าใยสังเคราะห์ (Synthetic Fabrics) ที่มี “เทคโนโลยี”
ผ้าใยสังเคราะห์ในปัจจุบันถูกพัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะผ้าประเภท Microfiber Polyester หรือผ้าที่มีเทคโนโลยี Moisture-Wicking ที่ช่วยในเรื่องของการระบายเหงื่อ และ Quick-Drying ที่ช่วยในเรื่องของความแห้งเร็ว จะช่วยดึงเหงื่อออกจากผิวหนังได้อย่างรวดเร็วและระเหยไปในอากาศ ทำให้คุณรู้สึกแห้งสบายตัวตลอดเวลา
เลือก “สีเสื้อผ้า” ไม่ให้ดูดซับความร้อน
สีเสื้อผ้าก็มีผลต่อความรู้สึกร้อนและเย็นเหมือนกัน อีกทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์โดยรวมของให้เราด้วย อย่างพวกสีอ่อนและสีสว่าง อย่างเสื้อผ้าสีขาว ครีม เบจ ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน หรือสีพาสเทล จะช่วยสะท้อนแสงแดด ทำให้ร่างกายไม่ดูดซับความร้อนไว้มากนัก และยังให้ความรู้สึกสดใส สบายตา
สีที่ใครหลายคนระวังและคิดว่าไม่ควรใส่ในช่วงหน้าร้อน อย่างพวกสีเข้มๆ อย่างสีดำ สีน้ำเงินเข้มจัด สีแดงเข้ม หรือสีเข้มจัดๆ เพราะมันจะดูดซับความร้อนจากแสงแดด ทำให้คุณรู้สึกร้อนเร็วขึ้น และอาจทำให้เสื้อผ้าซีดจางเร็วเมื่อตากแดดบ่อยๆ ซึ่งมันก็จริงนั่นแหละ แต่รู้ไหมว่าเสื้อสีเข้มที่เราใส่แล้วร้อนกันน่ะ เพราะแดดหรือความร้อนมันลงเสื้อโดยตรง แต่พวกสีสว่างน่ะมันลงผิวเราโดยตรง ทำให้อาจเกิดความคล้ำแดดขึ้น ยิ่งพวกเสื้อบางๆ นี่ตัวดีเลย
ไอเท็มสำหรับฤดูกาลทั้ง 4 ในไทย
นอกจากชนิดผ้าและสีแล้ว การมีไอเท็มเหล่านี้ติดตู้ไว้ จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยของเมืองไทยได้สบายๆ
ฤดูร้อน เน้นความโปร่ง สบายตัว
แนะนำเป็นพวกเสื้อยืดหรือเสื้อกล้าม เนื้อผ้าเป็นพวกผ้าฝ้ายบางๆ หรือผ้าใยสังเคราะห์ระบายเหงื่อ หรือจะเป็นเสื้อเชิ้ตผ้าลินินแขนสั้น แขนยาว หรือแขนสามส่วน สำหรับวันสบายๆ หรือใส่คลุมกันแดด ส่วนท่อนล่างก็แล้วแต่เราเลย แต่แนะนำให้เป็นพวกผ้าลินิน หรือผ้าฝ้ายเนื้อบาง เพื่อระบายอากาศและกันแดด
โดยเราอาจมีไอเท็มเสริมเพิ่มเติมกันร้อน กันแดด อย่างพวกหมวกแก๊ปหรือหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด ปกป้องดวงตาและช่วยเสริมลุค รวมไปถึงไอเท็มยอดฮิตที่เชื่อว่าหลายคนขาดไม่ได้แล้วอย่าง “พัดลมพกพา” ที่ช่วยให้ความเย็นกับเราได้อย่างต้องการ และพวกรองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบโปร่ง เพื่อความสบายเท้า
ฤดูฝน กันฝน แห้งเร็ว ไม่อับชื้น
เสื้อผ้าก็ยังคงเน้นผ้าที่ระบายอากาศดี และแห้งเร็ว เช่น ผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้าฝ้ายผสม หากพกเสื้อกันฝน ก็แนะนำเป็นเสื้อคลุมกันฝนแบบบาง ชนิดที่พับเก็บได้เล็กๆ พกพาสะดวก ส่วนกางเกงก็เลือกที่ไม่ดูดซับน้ำง่าย อย่างกางเกงชิโน่ หรือกางเกงที่ทำจากใยสังเคราะห์ แบะเสื้อแขนยาวผ้าแห้งเร็ว สำหรับวันที่อากาศครึ้มและชื้น
ส่วนไอเท็มเพิ่มเติมคงหนีไม้พ้น “ร่ม” แน่นอน เพราะสิ่งจำเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เลือกแบบที่แข็งแรง ทนลมได้ก็จะดี รองเท้าก็ควรเป็นรองเท้ากันน้ำ อย่างรองเท้าแตะยาง รองเท้า Crocs หรือรองเท้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่ซักง่ายแห้งเร็ว ส่วนกระเป๋าแนะนำเป็นพวกกระเป๋ากันน้ำอย่างพวกเนื้อผ้าไนล่อน
ฤดูหนาว(อันน้อยนิด) อบอุ่นเบาๆ ไม่โอเวอร์
เสื้อผ้าในฤดูหนาวไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ เพราะความหนาวในไทยมันแค่แปปเดียวจริงๆ แนะนำเป็นพวกเสื้อแขนยาวหรือสเวตเตอร์บางๆ ที่ทำจากผ้าฝ้าย ไหมพรมบางๆ หากใครชอบพวกเสื้อคลุมอย่างแจ็คเก็ต ก็แนะนำเป็นแจ็คเก็ตยีนส์หรือแจ็คเก็ตผ้าบาง สำหรับใส่ทับในตอนเช้า หรือตอนกลางคืน
ไอเท็มเสริม สำหรับคนขี้หนาวก็อาจพกพวกผ้าพันคอบางๆ เพราะมันไม่ได้มีไว้แค่กันหนาว แต่ยังเป็นพร็อพแฟชั่นที่ช่วยเพิ่มเลเยอร์และสไตล์ได้อีกด้วย บอกเลยว่าในช่วงหนาวปลอมนี้ การแต่งตัวแบบเลเยอร์หรือใส่เสื้อซ้อนทับกัน คือเทคนิคที่เหมาะสมที่สุด เพราะคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงของวัน เช่น ใส่เสื้อยืดด้านใน คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ต และมีแจ็คเก็ตติดตัวไว้เผื่ออากาศเย็นลง
การแต่งตัวในเมืองไทยให้ดูดีและสบายตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่งตัวยังไงให้เหมาะกับอากาศร้อน คำถามนี้คงหมดไป หากคุณเข้าใจถึงธรรมชาติของอากาศ และเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสม ทั้งชนิดผ้า สี และไอเท็มเสริมต่างๆ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ แล้วบอกเลยว่าการแต่งตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศจะสนุกกว่าที่คิดเพราะเราเตรียมพร้อมและรับมือกับมันไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ด้วยชุดแต่งกายของเรา