แต่งตัวตาม Personal Color แต่ละ 4 ฤดู แต่งยังไงให้ปัง
เคยไหมที่ซื้อเสื้อสวยๆ มา แต่พอใส่แล้วกลับรู้สึกว่า “ไม่ขึ้น” เลย นั่นอาจไม่ใช่ความผิดของเสื้อผ้า แต่เป็นเพราะโทนสีที่ไม่เข้ากับผิวของคุณต่างหาก ในเรื่องของแฟชั่นนั้นมันไม่ได้มีแค่เทรนด์และสไตล์ แต่ยังมีเรื่องของ แต่งตัวตาม Personal Color ที่จะปลดล็อกความงามที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ และวันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกเคล็ดลับการเลือกสีเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ไปจนถึงเครื่องประดับตาม Personal Color ทั้ง 4 ฤดู เพื่อให้คุณมั่นใจว่าไม่ว่าจะแต่งลุคไหนก็ดูมีออร่า และโดดเด่นกว่าใครอย่างแน่นอน
ฤดูทั้ง 4 ของ Personal Color
ฤดูหลักๆ ของทั้ง 4 ฤดูกาลจะมี Spring Autumn Summer และ Winter แต่รู้ไหมว่ามันไม่ได้มีแค่นั้น เพราะมันยังมีประเภทย่อยอีกนั่นเอง ที่จะทำให้เหมาะกับเรามากขึ้น ดังต่อไปนี้
Spring (ฤดูใบไม้ผลิ) สดใส อบอุ่น มีชีวิตชีวา
อันเดอร์โทน คือโทนอุ่นหรือ Warm Tone สำหรับใครที่ได้ฤดูนี้จะมีความสดใสและความสว่าง สีผิวมีประกายทองอมเหลือง สีของผมที่เหมาะมากจะเป็นสีบลอนด์ทอง น้ำตาลทอง หรือน้ำตาลแดงอ่อนๆ ส่วนตาหรือคอนแทคเลนส์สามารถใส่สีฟ้า เขียวอ่อน หรือน้ำตาลอ่อนประกายทองได้เลย
: True Spring เหมาะกับสีที่สดใสและอบอุ่น เช่น สีเหลืองแสงอาทิตย์ (Sunflower), สีเขียวมะนาว (Lime Green), สีส้มปะการัง (Coral), สีแดงสด (Poppy Red) และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ (Turquoise) การแต่งตัวด้วยสีที่ชัดเจนและมีชีวิตชีวา จะทำให้คุณดูมีพลังและสดใสมากที่สุด
: Warm Spring เหมาะกับสีที่อบอุ่นและมีประกายทอง เช่น สีส้มพีช (Peach), สีเหลืองทอง (Golden Yellow), สีเขียวใบตอง (Leaf Green) และสีน้ำตาลคาราเมล (Caramel) ลองใช้เครื่องประดับสีทอง จะช่วยขับผิวให้ดูเปล่งประกายและมีชีวิตชีวามากขึ้น
: Light Spring เหมาะกับสีอ่อนใสและพาสเทล เช่น สีชมพูอมส้ม (Salmon Pink), สีมิ้นท์ (Mint Green), สีฟ้าอ่อน (Baby Blue) และสีเบจ (Beige) การแต่งตัวด้วยโทนสีอ่อนๆ จะทำให้คุณดูอ่อนหวานและน่าทะนุถนอม ไม่ควรใช้สีที่เข้มหรือหนักจนเกินไป
Summer (ฤดูร้อน): นุ่มนวล เย็นสบาย ละมุนละไม
จะมี อันเดอร์โทนเย็น หรือ Cool Tone มีความนุ่มนวลและสว่าง สีผิวอมชมพู หรืออมฟ้า สีผมที่เหมาะจะเป็นสีบลอนด์หม่น น้ำตาลอ่อนโทนเย็น ส่วนพวกคอนแทคเลนส์ แนะนำให้ใส่สีฟ้าอมเทา เขียวอมเทา หรือน้ำตาลอมเทา
: Cool Summer เหมาะกับสีที่ดูเย็นและสบายตา เช่น สีฟ้าอ่อน (Powder Blue), สีเขียวอมฟ้า (Seafoam Green), สีชมพูกุหลาบ (Dusty Rose) และสีลาเวนเดอร์ (Lavender) ควรเลือกเครื่องประดับที่เป็นสีเงินหรือสีทองคำขาว จะช่วยขับผิวให้ดูสว่างและกระจ่างใสมากขึ้น
: Light Summer เหมาะกับสีพาสเทลและสีอ่อนใส เช่น สีชมพูอมม่วง (Mauve), สีฟ้าอ่อน (Sky Blue), สีเทาอ่อน (Light Gray) และสีชมพูอ่อน (Baby Pink) แนะนำให้แต่งตัวด้วยโทนสีอ่อนๆ จะช่วยให้คุณดูน่ารักและอ่อนหวาน แต่ควรระวังไม่ให้ใช้สีที่จัดจ้านจนเกินไป
: Mute Summer เหมาะกับสีที่ดูไม่จัดจ้านและมีอันเดอร์โทนสีเทา เช่น สีกรมท่า (Navy Blue), สีเขียวใบโอลีฟ (Olive Green), สีฟ้าหม่น (Dusty Blue) และสีชมพูอมเทา (Rose Taupe) คุณสามารถสวมใส่สีกลางๆ ได้ดี ไม่ควรเลือกสีที่สว่างหรือเข้มเกินไป การแต่งตัวด้วยโทนสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวจะทำให้คุณดูมีมิติ ควรหลีกเลี่ยงสีสดจัดๆ หรือสีโทนอุ่นจัดๆ เช่น ส้มสด เหลืองสด แดงสด จะทำให้ผิวดูซีดและจืดชืด
Autumn (ฤดูใบไม้ร่วง) อบอุ่น ลึกซึ้ง เป็นธรรมชาติ
จะเป็นอันเดอร์โทนอุ่น หรือ Warm Tone มีความลึกซึ้งและความนุ่มนวล มีสีผิวมีประกายทอง หรือสีน้ำผึ้ง สีผมที่เหมาะมักจะเป็นสีน้ำตาลเข้มประกายทอง แดงเข้ม ส่วสคอนแทคเลนส์ที่แนะนำจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม เขียวเข้ม หรือเฮเซล (Hazel)
: True Autumn เหมาะกับสีเอิร์ธโทน (Earth Tone) ที่ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่น สีเขียวมะกอก (Olive Green), สีส้มสนิม (Rust), สีมัสตาร์ด (Mustard Yellow) และสีแดงอิฐ (Brick Red) การใช้เครื่องประดับสีทองแดง หรือสีเงินด้าน จะช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับคุณได้เป็นอย่างดี
: Deep Autumn เหมาะกับสีที่เข้มและลุ่มลึก เช่น สีเขียวป่า (Forest Green), สีแดงเลือดหมู (Burgundy), สีม่วงเข้ม (Plum) และสีน้ำตาลมะฮอกกานี (Mahogany) การแต่งตัวด้วยโทนสีเข้มจะช่วยเพิ่มความลึกลับและน่าค้นหา แต่ควรเลือกสีที่มีความอบอุ่นผสมอยู่ด้วย
: Mute Autumn เหมาะกับสีที่ดูไม่จัดจ้านและมีความทึบเล็กน้อย เช่น สีเขียวมอส (Moss Green), สีเบจ (Beige), สีเทอร์ราคอตต้าอ่อน (Soft Terracotta) และสีน้ำตาลอูฐ (Camel) คุณสามารถใช้โทนสีอ่อนและธรรมชาติได้ดีกว่าออทั่มประเภทอื่น การแต่งตัวด้วยโทนสีกลางๆ จะทำให้คุณดูสงบและน่าเข้าหา
Winter (ฤดูหนาว) โดดเด่น ชัดเจน คมเข้ม
ลักษณะของอันเดอร์โทน จะเป็นโทนเย็น หรือ Cool Tone , มีความสดและเข้มไปในทีเดียวกัน สีผิวขาวซีดอมชมพู หรือคล้ำเข้มแต่มีอันเดอร์โทนเย็น สีผมจะเหมาะกับสีดำสนิท น้ำตาลเข้มจัด ส่วนสีคอนแทคเลนส์ที่เหมาะก็คือสีดำ น้ำเงินเข้ม เขียวเข้ม หรือเทา
: Cool Winter เหมาะกับสีที่เย็นจัดและสดใส เช่น สีฟ้าคราม (Royal Blue), สีเขียวมรกต (Emerald Green), สีชมพูฟูเชีย (Fuchsia) และสีดำ (Jet Black) การแต่งตัวด้วยโทนสีเย็นและสีที่ตัดกันอย่างชัดเจนจะช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับบุคลิกของคุณ
: Deep Winter เหมาะกับสีที่เข้มและลุ่มลึก เช่น สีดำ (Black), สีม่วงเข้ม (Deep Purple), สีแดงทับทิม (Ruby Red) และสีเขียวสน (Pine Green) สามารถสวมใส่สีที่เข้มและหนักได้ดี การใช้สีดำและสีขาวในสัดส่วนที่ชัดเจนจะทำให้คุณดูมีเสน่ห์
: Bright Winter เหมาะกับสีที่สดใสและจัดจ้าน เช่น สีแดง (True Red), สีฟ้าสด (Electric Blue), สีเขียวสด (Kelly Green) และสีเหลืองมะนาว (Lemon Yellow) ควรแต่งตัวด้วยโทนสีที่สดใสและมีความคอนทราสต์สูง จะช่วยเสริมให้คุณดูมีพลังและมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องทิ้งเสื้อผ้าทั้งหมดนะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ตรงกับ Personal Color ของคุณก็ตาม คุณอาจจะยังใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นได้ โดยเลือกชิ้นที่อยู่ใกล้ใบหน้าเป็นสีที่ใช่ หรือใช้เทคนิคเลเยอร์ด้วยเสื้อคลุม หรือผ้าพันคอที่มีสีที่เข้ากับคุณ
สุดท้ายแล้ว ถึง Personal Color จะเป็นเครื่องมือที่ดี แต่ถ้าคุณรักเสื้อผ้าสีไหน และรู้สึกมั่นใจเมื่อสวมใส่ ก็จงใส่มันอย่างมั่นใจ เพราะความมั่นใจคือสิ่งที่ทำให้คุณดูดีที่สุดเสมอ ส่วนการ แต่งตัวตาม Personal Color เป็นเพียงไกด์ไลน์ที่ช่วยให้คุณแมทช์สีได้สวยขึ้นกว่าเดิมปกติ เพราะการเลือกสีที่สอดคล้องกับอันเดอร์โทน ความสว่าง และความคมชัดของผิวคุณจะทำให้คุณเปล่งประกาย ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวสไตล์ไหน ก็สามารช่วยให้ออร่าของคุณผ่องขึ้นมาอย่างชัดเจน