วิธีทำความสะอาดกระเป๋าแต่ละชนิด ดูแลให้เหมือนใหม่ และใช้ได้นานๆ

กระเป๋าคู่ใจที่เราใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นหนัง ผ้า แคนวาส หรือไนลอน ล้วนเป็นเหมือนเพื่อนร่วมทางที่ต้องเผชิญกับฝุ่น คราบสกปรก และเหงื่อไคล การดูแลทำความสะอาดอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้กระเป๋าดูเหมือนใหม่เสมอแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้เราได้ใช้กระเป๋าใบโปรดไปได้อีกนาน ดังนั้นในบทความนี้จึงจะมาพูดถึงเรื่องของ วิธีทำความสะอาดกระเป๋าแต่ละชนิด

เคล็ดลับดูแลผิว “กระเป๋าหนัง” ให้เงางาม

กระเป๋าหนังเป็นอะไรที่สวยคลาสสิก แต่ก็บอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การทำความสะอาดต้องเลือกวิธีให้เหมาะกับชนิดของหนัง โดยเราจะแยกประเภทออกเป็นดังต่อไปนี้

หนังแท้ (Smooth Leather)

การทำความสะอาดง่ายๆ โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่ม ชุบน้ำสะอาดผสมน้ำยาทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ (Leather Cleaner) เล็กน้อย บิดให้หมาดที่สุด แล้วเช็ดทำความสะอาดเบาๆ ให้ทั่วกระเป๋า จากนั้นใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดซ้ำทันที หลังจากทำความสะอาดและเช็ดจนแห้งสนิทแล้ว ให้ลง ครีมบำรุงหนัง (Leather Conditioner) หรือ ไขปลาวาฬ โดยใช้ผ้าเนื้อนุ่มลูบไล้เบาๆ ให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ให้ซึมซับ แล้วใช้ผ้าแห้งขัดเบาๆ ให้เกิดความเงางาม การบำรุงนี้ควรทำทุก 2-3 เดือน หรือบ่อยขึ้นหากใช้งานบ่อย และอย่าลืมที่จะทดสอบน้ำยาหรือครีมบำรุงในจุดที่มองไม่เห็นก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำให้สีหนังเปลี่ยนหรือเกิดรอยด่าง

หนังกลับ (Suede/Nubuck)

หากจะทำความสะอาดหนังกลับก็ให้ใช้แปรงสำหรับหนังกลับ (Suede Brush) แปรงเบาๆ ไปในทิศทางเดียวกันเพื่อปัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออก หากมีคราบฝังแน่น ให้ใช้ ยางลบสำหรับหนังกลับ (Suede Eraser) ค่อยๆ ถูเบาๆ ที่คราบ ในการบำรุงนั้น หนังกลับไม่จำเป็นต้องลงครีมบำรุง แต่ควรฉีดสเปรย์กันน้ำและกันคราบสำหรับหนังกลับ (Suede Protector Spray) เพื่อช่วยปกป้องผิวสัมผัส ที่สำคัญนั้นคือห้ามใช้ผ้าเปียกเช็ดหนังกลับเด็ดขาด เพราะจะทำให้หนังแข็งและเป็นคราบได้ง่าย และหลีกเลี่ยงการโดนน้ำโดยตรง

หนังแก้ว (Patent Leather)

การทำความสะอาดหนังแก้วนั้นก็ไม่ยากเลย เพียงใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่ม ชุบน้ำสะอาดผสมน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดหนังแก้วโดยเฉพาะ บิดหมาดๆ เช็ดเบาๆ เพื่อขจัดรอยนิ้วมือและคราบสกปรก จากนั้นใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดให้แห้งสนิททันที เรื่องของการบำรุง หนังแก้วไม่ต้องการครีมบำรุง แต่สามารถใช้น้ำยาเช็ดกระจกแบบไร้แอลกอฮอล์ฉีดลงบนผ้าแล้วเช็ดเพื่อเพิ่มความเงางามได้ (ทดสอบในจุดลับก่อน) ข้อเสียที่หลายคนอาจทราบ หนังแก้วเป็นรอยขีดข่วนง่าย และดูดสีจากวัสดุอื่นได้ง่ายมาก ควรเก็บในถุงผ้าแยกจากกระเป๋าใบอื่น และหลีกเลี่ยงการเสียดสีกับสิ่งของ

การดูแลกระเป๋าผ้าหรือแคนวาสให้ไม่หมอง

กระเป๋าผ้าและแคนวาสดูแลรักษาง่ายกว่าหนัง แต่ก็ต้องระวังเรื่องคราบสกปรกที่อาจฝังแน่น โดยเราขอแนะนำให้ “ซักมือ” จะเป็นการดีที่สุด เพียงผสมน้ำอุ่นกับน้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าสี หรือน้ำยาซักผ้าเด็กแบบอ่อนๆ ในภาชนะ ใช้แปรงสีฟันเก่าๆ หรือแปรงขนนุ่ม จุ่มน้ำยา แล้วขัดเบาๆ เน้นบริเวณที่มีคราบ จากนั้ยให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่าน หรือใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดน้ำยาออกให้หมด ห้ามบิดหรือขยี้แรงๆ เพราะอาจทำให้กระเป๋าเสียทรง

แต่ก็จะมีบางรุ่นที่สามารถ “ซักเครื่อง” ได้ โดยเราก็ต้องตรวจสอบป้าย Care Label ของกระเป๋าว่าซักเครื่องได้หรือไม่ จากนั้นก็ให้นำกระเป๋าใส่ถุงซักผ้า เพื่อป้องกันการเสียดสีและเสียรูป เลือกโปรแกรมซักแบบถนอมผ้า และใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่น อย่าลืมเช็คลักษณะของกระเป๋าด้วย เพราะหากกระเป๋าผ้ามีโครงสร้างแข็งแรง หรือมีหนังผสม ควรหลีกเลี่ยงการซักเครื่องเด็ดขาด

ในส่วนของการขจัดคราบฝังแน่น หากเป็นคราบทั่วไป ก็ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดผ้าผสมเบกกิ้งโซดาเล็กน้อย ถูเบาๆ ที่คราบ, หากเป็นคราบน้ำมัน/ไขมัน ก็ให้โรยแป้งฝุ่น หรือแป้งข้าวโพดลงบนคราบ ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมงให้แป้งดูดซับไขมัน แล้วปัดออกเบาๆ การตากก็ไม่ยาก ให้ตากในที่ร่ม มีลมโกรก หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้สีซีดจาง และให้ยัดกระดาษ หรือผ้าขนหนูสะอาดๆ เข้าไปในกระเป๋า เพื่อช่วยรักษารูปทรงขณะตาก

กระเป๋าไนลอน/โพลีเอสเตอร์ “เช็ดง่าย ป้องกันเชื้อรา”

กระเป๋าประเภทนี้ดูแลรักษาง่ายสุดๆ ด้วยคุณสมบัติที่กันน้ำและแห้งเร็ว การเช็ดทำความสะอาดแสนง่าย เพียงใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำสบู่อ่อนๆ (เช่น สบู่อาบน้ำเด็ก) หรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับผ้าสังเคราะห์ บิดให้หมาด แล้วเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกและคราบต่างๆ ให้ทั่ว หากมีคราบฝังแน่น ก็อาจใช้แปรงขนนุ่มๆ ขัดเบาๆ บริเวณคราบที่ติดแน่น

ในส่วนของการป้องกันเชื้อรา แนะนำให้เช็ดให้แห้งสนิท หลังจากทำความสะอาดหรือกระเป๋าโดนฝน ควรเช็ดให้แห้งสนิท 100% ก่อนเก็บ เก็บในที่ระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงการเก็บในที่อับชื้น ปิดทึบ เพราะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อรา หากเป็นไปได้ก็อาจวางซองกันชื้น (Silica Gel) ไว้ในกระเป๋าขณะจัดเก็บ เพื่อช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน

การทำความสะอาดอุปกรณ์ของกระเป๋า

ส่วนประกอบโลหะก็ต้องการการดูแลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์โลหะ ซิป, ตัวล็อก, โลโก้ ก็ต้องการการดูแลและการป้องกันการหมองคล้ำและการเกิดสนิม การทำความสะอาดก็ใช้ผ้านุ่มแห้ง ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่ม เช็ดทำความสะอาดฝุ่นและคราบสกปรกบนซิป ตัวล็อก หรือโลโก้เป็นประจำ ถ้าจะให้ดีก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดโลหะ (Metal Polish) เฉพาะจุด หากพบว่าโลหะเริ่มหมองคล้ำ สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดโลหะเฉพาะประเภท (เช่น น้ำยาขัดทองเหลือง หรือน้ำยาขัดเงิน) หยดลงบนผ้าแล้วเช็ดเบาๆ เพียงเล็กน้อย ห้ามให้น้ำยาไปโดนส่วนที่เป็นหนังหรือผ้าเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดคราบ และอย่าลืมที่จะหลีกเลี่ยงความชื้น หลังจากทำความสะอาด หรือกระเป๋าโดนฝน ควรเช็ดส่วนโลหะให้แห้งสนิทเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดสนิม

ข้อควรระวังที่ไม่ควรทำเด็ดขาดกับกระเป๋าแต่ละชนิด

การทำความสะอาดผิดวิธีอาจทำให้กระเป๋าใบโปรดของคุณพังได้ มาดูกันว่าอะไรที่ห้ามทำเด็ดขาดสำหรับกระเป๋าแต่ละชนิดที่เราจะแยกประเภทให้ทุกคนได้อ่านกันแบบง่ายๆ

กระเป๋าหนัง ข้อห้ามก็จะมีห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์หรือสารเคมีรุนแรง เช่น สเปรย์ฉีดผม น้ำหอม ทินเนอร์ หรือน้ำยาเช็ดกระจก (ยกเว้นหนังแก้วบางชนิดที่ทดสอบแล้ว) สิ่งเหล่านี้จะทำให้หนังแห้ง แตก และเสียหาย, ห้ามใช้สบู่ทั่วไป/ผงซักฟอก เพราะมีความเป็นด่างสูง จะทำลายความมันเงาตามธรรมชาติของหนัง, ห้ามตากแดดโดยตรง แสงแดดจะทำให้หนังแห้ง แตก และสีซีดจาง, ห้ามเก็บในถุงพลาสติกปิดสนิท หนังต้องการการระบายอากาศ การเก็บในถุงพลาสติกจะทำให้เกิดความอับชื้นและเชื้อราได้ ควรเก็บในถุงผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

กระเป๋าผ้า/แคนวาส ห้ามใช้แปรงขนแข็ง หรือขัดแรงเกินไป อาจทำให้ผ้าเป็นขุย หรือเส้นใยเสียหายได้, ห้ามใช้สารฟอกขาว จะทำให้สีผ้าด่างหรือซีดจาง, ห้ามบิด/ขยี้แรงๆ จะทำให้กระเป๋าเสียทรง และโครงสร้างกระเป๋าเสียหาย

กระเป๋าไนลอน/โพลีเอสเตอร์ ห้ามใช้น้ำร้อนจัด อาจทำให้เนื้อผ้าหดตัว หรือเสียรูป, ห้ามใช้สารเคมีรุนแรง อาจทำให้สีซีดจาง หรือเนื้อผ้าเสียหาย

การดูแลกระเป๋าอย่างถูกวิธี ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่ใส่ใจและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับชนิดของวัสดุและดูแลให้ถูกวิธีตามที่เราบอกไปข้างต้น เพียงเท่านี้กระเป๋าใบโปรดของคุณก็จะสวยเหมือนใหม่ พร้อมใช้งานไปอีกนานแสนนานแบบที่ว่าไม่ต้องซื้อใบใหม่ หรือโละทิ้งเลยล่ะ