วิธีสะพายกระเป๋า เลือกยังไงให้สะพายสบาย ไม่ปวดไหล่ ไม่ปวดหลัง

วิธีสะพายกระเป๋า เลือกยังไงให้สะพายสบาย ไม่ปวดไหล่ ไม่ปวดหลัง

วิธีสะพายกระเป๋า เลือกยังไงให้สะพายสบาย ไม่ปวดไหล่ ไม่ปวดหลัง

กระเป๋าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ไม่ว่าจะสะพายไปทำงาน ไปเรียน หรือไปเที่ยว แต่รู้ไหมว่าการเลือกกระเป๋าที่ไม่เหมาะสมกับสรีระและการใช้งาน อาจนำมาซึ่งอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง ทั้งปวดไหล่ ปวดคอ หรือปวดหลังได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าควรเลือกกระเป๋าแบบไหน และใช้งานอย่างไร ให้สะพายสบาย ไม่ทำร้ายสุขภาพ

 

ผลกระทบของการใช้กระเป๋าผิดประเภท

การใช้กระเป๋าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้แค่รู้สึกไม่สบายตัว แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ อย่างพวกอาการปวดไหล่และคอ เมื่อกระเป๋ามีน้ำหนักมากเกินไป หรือสะพายอยู่ข้างเดียวนานๆ กล้ามเนื้อบริเวณไหล่และคอจะทำงานหนักเพื่อพยุงน้ำหนัก ทำให้เกิดอาการปวด เกร็ง และอาจนำไปสู่อาการอักเสบเรื้อรังได้

 

อาการปวดหลังก็เหมือนกัน การแบกน้ำหนักที่ไม่สมดุล หรือกระเป๋าที่ไม่มีการรองรับหลังที่ดี จะทำให้กระดูกสันหลังต้องแบกรับภาระมากเกินไป กล้ามเนื้อหลังทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนบน กลาง และล่าง อีกทั้งทำให้ร่างกายเสียสมดุล เพราะเมื่อร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักที่ไม่สมดุล กล้ามเนื้อจะปรับตัวเพื่อรักษาสมดุล ส่งผลให้ท่าทางการยืนหรือเดินเปลี่ยนไป บ่าข้างหนึ่งอาจสูงกว่าอีกข้าง หรือกระดูกสันหลังอาจคดงอได้ในระยะยาว

 

หลักการเลือกกระเป๋าที่รองรับสรีระ

การเลือกกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระ จะช่วยกระจายน้ำหนัก ลดแรงกดทับ และป้องกันอาการปวดต่างๆ ได้ ถ้าเลือกเป็น กระเป๋าสะพายข้าง (Shoulder Bag / Crossbody Bag) แนะนำให้เลือกสายสะพายที่กว้างหรือหนา สายสะพายที่กว้างจะช่วยกระจายน้ำหนักบนบ่าได้ดีกว่าสายเส้นเล็กๆ ที่อาจกดทับเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อ ยิ่งถ้ามีแผ่นรองบ่าก็ยิ่งดี มองหากระเป๋าที่มีแผ่นรองบ่านุ่มๆ หนาพอสมควร เพื่อลดแรงเสียดสีและแรงกด ไม่ควรไม่สะพายข้างเดียวนานๆ ถึงแม้จะเลือกกระเป๋าที่ดีแล้ว แต่การสะพายข้างเดียวนานๆ ก็ยังคงทำให้กล้ามเนื้อข้างนั้นทำงานหนักอยู่ดี ควร สลับข้างสะพายบ่อยๆ หรือถ้าเป็นไปได้ ให้สะพายแบบ Crossbody (คาดลำตัว) เพื่อกระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ที่สำคัญควรพกของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรให้กระเป๋าสะพายข้างมีน้ำหนักเกิน 10% ของน้ำหนักตัว

 

ถ้าใครสายลุย ชอบพวกกระเป๋าเป้ (Backpack) ก็ต้องเน้นสายสะพายหนาและบุผ้านุ่ม สายสะพายของเป้ที่ดีควรมีความกว้างอย่างน้อย 2-3 นิ้ว และมีการบุโฟมหรือวัสดุนุ่มๆ เพื่อกระจายน้ำหนักบนบ่าและลดการกดทับ ด้านหลังของเป้ควรมีแผ่นรองที่นุ่ม มีการบุที่ช่วยระบายอากาศได้ดี (เช่น ผ้าตาข่าย หรือโฟมที่มีร่อง) เพื่อป้องกันความร้อนสะสมและลดการเสียดสี และต้องมีสายรัดอก และสายรัดเอว โดยสองสิ่งนี้จะช่วยให้การถ่ายเทน้ำหนักได้ดี สุดท้ายแล้วก็แนะนำให้เลือกขนาดเป้ที่เหมาะสมกับความยาวหลัง หรือ Torso Length ของคุณ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป

 

ถ้าเลือกเป็น กระเป๋าถือ (Handbag/Tote Bag) ให้หลีกเลี่ยงการหิ้วของหนักเกินไป กระเป๋าถือเหมาะสำหรับการพกของเบาๆ หากจำเป็นต้องพกของหนัก ควรเลือกกระเป๋าที่มีหูหิ้วแข็งแรง และไม่หิ้วนานๆ หากต้องหิ้วกระเป๋าที่มีน้ำหนักพอสมควร ควรเปลี่ยนข้างหิ้วบ่อยๆ เพื่อกระจายภาระให้กับแขนและไหล่ทั้งสองข้าง ถ้าเป็นไปได้ ให้ถือกระเป๋าด้วยสองมือเมื่อต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน

 

ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าประเภทไหน พยายามจำกัดน้ำหนักของกระเป๋าให้ไม่เกิน 10-15% ของน้ำหนักตัว เพื่อสุขภาพหลังที่ดีในระยะยาว เนื่องจากการดูแลสุขภาพจากการใช้กระเป๋าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเลือกที่เหมาะสม ปรับให้ถูกต้อง และหมั่นยืดเส้นเป็นประจำ จะช่วยให้คุณสะพายกระเป๋าคู่ใจได้อย่างสบายตัว ไร้อาการปวดเมื่อยมากวนใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *