ประวัติ ZARA แบรนด์เสื้อที่ขึ้นแท่น ราชินีแห่งแฟชั่น Fast Fashion
ประวัติ ZARA จัดว่าเป็นเกรดเสื้อผ้าที่ดูดีมีระดับ มีความแฟชั่นจ๋าขึ้นมาหน่อย ทว่ากลับดึงดูดคนจำนวนมากเลยทีเดียว หากเราเข้าช้อปซาร่าไป ก็จะเห็นว่าแม้ไม่ได้มีโปรโมชั่นลดราคา แต่ก็ยังมีเหล่าลูกค้านักช้อปท่านอื่นๆ ที่เดินชุลมุนเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์นี้
ประวัติความเป็นมา
ZARA ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 โดย Amancio Ortega (อามันซิโอ ออร์เตกา) ชาวสเปน ที่เมือง A Coruña (ลาโครูนา) ประเทศสเปน โดยเริ่มแรกของแบรนด์ ZARA นั้นก็เป็นเพียงร้านค้าเล็กๆ ที่จำหน่ายเสื้อผ้าเลียนแบบดีไซน์จากแบรนด์หรู แต่ด้วย “ความสามารถในการผลิตเสื้อผ้าจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว” และนำเสนอเทรนด์ใหม่ๆ ได้ทันเหตุการณ์ติดเทรนด์ ณ ขณะนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ซาร่าเติบโตอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน เกร็ดเล็กๆ ที่แอดอยากบอกต่อคือ อามันซิโอ ออร์เตกา เจ้าของแบรนด์ซาร่า เป็นบุคคลที่รวยที่สุดใน “สเปน” และเป็นเศรษฐีอันดับ 6 ของโลก ในปี 2019
จุดแข็งของแบรนด์
จุดแข็งของแบรนด์ซาร่าก็จัดว่าน่าสนใจเลยทีเดียว จากแบรนด์ที่เลียนแบบคนอื่น สู่แบรนด์แฟชั่นเลืองชื่อ ซาร่ามีสโลแกนที่ว่า “การทำการตลาด ที่ไม่ทำการตลาด” เน้นการจัดหน้าร้านให้ดี เพราะหน้าร้านคือ “สื่อโฆษณาที่ดีที่สุด” ลูกค้าคือพนักงาน คือนายแบบ นางแบบที่ดีที่สุด เพราะสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ซาร่าแล้วดูดีนั่นเอง พูดแบบให้เข้าใจคือทางแบรนด์ใช้กลยุทธ์แบบปากต่อปาก บอกต่อ เห็นด้วยตา จนสวมใส่กันเยอะเป็นกระแสนั่นเอง อีกทั้งซาร่ายังมีการออกแบบที่ดี ทำให้ดึงดูดสายตาของลูกค้า
ทางแบรนด์จะมีนโยบายในการผลิตเสื้อผ้าแต่ละแบบในปริมาณน้อยที่เรียกว่า Scarcity Marketing การผลิตน้อย ให้เป็นที่ต้องการของตลาด แต่มีแบบให้เลือกมากมาย ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภครู้สึกว่าสินค้าของซาร่ามีความพิเศษและไม่ซ้ำใคร เนื่องจากบางชิ้นก็มีความแอบเป็นลิมิตเต็ดเหมือนกัน โดยทางแบรนด์เน้น กลยุทธ์ Drop เป็นกลยุทธ์ที่ซาร่าใช้ โดยแบ่งสินค้าเป็น 2 ประเภท คือ สินค้าปกติ 60% สินค้าที่มีจำนวนจำกัด 40% โดยทุกๆ 2-3 วันจะวางสินค้าจำนวนจำกัดบ้างให้ลูกค้าเห็น เป็นกุลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้ามีโอกาสที่จะแวะเข้ามาเยี่ยมชมร้านซาร่าซ้ำๆ เพื่อตรวจเช็คว่าสินค้าใหม่เข้ามารึเปล่า
แบรนด์ซาร่า สามารถนำเทรนด์ “แฟชั่นล่าสุด” มาผลิตและวางจำหน่ายได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น คิดดูสิว่าเรื่องความเร็วขนาดนี้ เป็นใครบ้างจะไม่ชอบและไม่อยากตามเทรนด์กัน แถมซาร่ายังเน้นความถี่ในการปล่อยสินค้า หรือเติมคอลเลคชั่นใหม่ๆ มีการเติมสินค้าแบบใหม่ “ทุกสัปดาห์” ทำให้อัปเดตเทรนด์อย่างต่อเนื่องได้เสมอ ทำให้เมื่อลูกค้ากลับมาที่ร้านก็จะไม่เบื่อเพราะเห็นสินค้าใหม่ๆ ตลอด สาเหตุที่ทำแบบนั้นได้เพราะซาร่ามีโรงงานผลิตสินค้ามากกว่า 8,543 แห่งทั่วโลก โดยโรงงานนั้นตั้งอยู่ในยุโรป 3,720 แห่ง ส่วนเอเชียและประเทศใกล้เคียง 3,481 แห่ง และโรงงานในสหรัฐอเมริกาอีก 34 แห่ง เป็นการกระจายสินค้า และย่นระยะเวลาส่งสินค้าไปในแต่ละสาขาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผลิตสินค้าออกมาได้ไวทันท่วงที ทำให้เรื่องเทรนด์ของเสื้อผ้าสามารถอัปเดต ทำคอลเลคชั่นออกมาได้แบบบถี่ๆ
ความสำเร็จของแบรนด์
ความสำเร็จของแบรนด์ซาร่า ที่เติบโตมาได้จนทุกวันนี้จนได้สมยานามว่าเป็น สุดยอดแบรนด์แฟชั่นที่คนเข้าถึงได้ เพราะแบรนด์ซาร่านั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น ว่าซาร่าสามารถผลิตสินค้าได้อย่างท่วงทันกระแสอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตัวแบรนด์เติบโตอย่างรวดเร็วและมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลกจนเป็นที่รู้จักอย่างทั่วถึง หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ แบรนด์ซาร่า เติบโตขึ้นไปอีก ทำให้นิตยสารชื่อดังอย่าง Forbes ยกให้ Zara (Inditex) กลายเป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายอันดับ 3 ของโลก (รองจากอันดับ อันดับ 2 Nike, และอันดับ 1 Dior
แบรนด์ Zara เป็นหนึ่งในแบรนด์ Fast Fashion ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก ด้วยราคาที่เข้าถึงและจับต้องได้ง่าย ไม่ได้แบรนด์จ๋าอย่างพวก Gucci, Prada หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแบรนด์ซาร่าก็เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการออกแบบและผลิตเสื้อผ้า เนื่องด้วยเหตุผลซัพพอร์ตจากการที่มีโรงงานจำนวนมากไปทั่วโลก แถมที่ตั้งของโรงงานยังกระจายและอยู่ใกล้สาขาย่อย ทำให้การส่งออกของสินค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อัปเดตกระแสและเทรนด์เสื้อผ้าได้ไวทันท่วงที
ยอดขายปัจจุบันและจำนวนสาขา
ยอดขายปัจจุบันและจำนวนสาขา ถือเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้แบรนด์นั้นๆ ประสบความสำเร็จ ซึ่งผลลัพธ์ของซาร่า บอกเลยว่าออกมาได้น่าพอใจอย่างมาก จากข้อมูลเดือนสิงหาคม 2567 โดย ZARA เพียงแบรนด์เดียวสามารถทำรายได้ไปได้ถึง 1,025,000 ล้านบาทในปี 2023 คิดเป็นสัดส่วนถึง 73% ของรายได้ทั้งบริษัท Inditex ในส่วนสาขาของ ZARA ไม่แน่นอน เพราะมีการเปิดและปิดตามสภาพเศรษฐกิจและแต่ละพื้นที่นั้นๆ แต่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 3,000 กว่าสาขา ซึ่งจัดว่าเยอะมากเลยทีเดียว
สินค้ายอดนิยม
ในส่วนของสินค้ายอดนิยมที่เหล่านักช้อปหรือเหล่าผู้บริโภคต่างก็ชื่นชอบ มีดังต่อไปนี้
– เสื้อผ้าเบสิก : เสื้อยืด, กางเกงยีนส์, เสื้อเชิ้ต เป็นสินค้าที่ขายดีตลอดกาล
– คอลเลกชั่นพิเศษ : คอลเลกชั่นร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดัง หรือคอลเลกชั่นตามฤดูกาลต่างๆ มักได้รับความนิยมอย่างมาก
– เครื่องประดับ : สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, ต่างหู
– รองเท้า : รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าส้นสูง, รองเท้าบู๊ท
ของที่ขายปัจจุบัน
ZARA เป็นแบรนด์แฟชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ราคาที่จับต้องได้ และการออกคอลเลกชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้มีสินค้าให้เลือกหลากหลายมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย มาดูกันว่าทางแบรนด์มีสินค้าอะไรน่าสนใจบ้าง
– เสื้อผ้าพื้นฐาน : เสื้อยืด, กางเกงยีนส์, เสื้อเชิ้ต เป็นไอเท็มพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี ทำให้ทางแบรนด์ซาร่าทำออกมาให้เลือกหลากหลายสี หลากหลายแบบ
– เสื้อผ้าแฟชั่น : อย่างที่บอกไปว่าซาร่าขึ้นชื่อเรื่องความเป็น “แฟชั่น” อย่างมาก ทำให้เสื้อแฟชั่นของแบรนด์นี้ จะเป็นเสื้อผ้าที่มีดีไซน์ทันสมัยตามเทรนด์ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นเดรส, กางเกงขาบาน, เสื้อครอป
– เสื้อผ้าสำหรับโอกาสพิเศษ : ซาร่าได้ทำชุดออกมาครอบคลุม ดังนั้นในเรื่องชุดโอกาสพิเศษอย่างพวกชุดราตรี, ชุดทำงาน ไปจนถึงชุดออกงานต่างๆ ของทั้งหญิงและชายก็มีหมดครบ
– เครื่องประดับ: สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, ต่างหู, นาฬิกา
– รองเท้า: รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าส้นสูง, รองเท้าบู๊ท, รองเท้าแตะ
– กระเป๋า: กระเป๋าสะพายข้าง, กระเป๋าถือ, กระเป๋าคลัทช์
– เครื่องสำอาง: เครื่องสำอางในราคาที่จับต้องได้ เช่น ลิปสติก, อายแชโดว์, บลัชออน
– สินค้าสำหรับเด็ก: เสื้อผ้า, รองเท้า, ของเล่น
– คอลเลกชั่นร่วมกับดีไซเนอร์ : มักจะมีคอลเลกชั่นร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดังหรือมีชื่อเสียง ไปจนถึงกำลังติดเทรนด์ ณ ขณะนั้น ทำให้ทางแบรนด์ได้เสื้อผ้าที่มีดีไซน์โดดเด่นและไม่ซ้ำใคร
– คอลเลกชั่นตามฤดูกาล : ซาร่าจะออกคอลเลกชั่นใหม่ตามฤดูกาลต่างๆ อยู่สม่ำเสมอ โดยแบ่งออกเป็น 4 ฤดูด้วยกัน คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว
– คอลเลกชั่นสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ZARA Kids สำหรับเด็ก, ZARA Home สำหรับของตกแต่งบ้าน
ระบบการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้าที่รวดเร็ว ทำให้แบรนด์ ZARA สามารถนำสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ดึงดูดลูกค้า จุดนี้ก็ทำให้แบรนด์ซาร่าเป็นมากกว่าแค่แบรนด์เสื้อผ้า แต่เป็นไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการแฟชั่นที่ทันสมัยและเข้าถึงได้ ซึ่งทาง ธน พลัส 153 ก็ผลิตเสื้อหลายประเภท เนื้อผ้ามากมาย รวมถึงเสื้อโอเวอร์ไซส์ด้วย หากคุณสนใจจะตีตลาดโดยมี ZARA เป็นแบบอย่าง ทางเราก็มีเซลล์และแอดมินมากประสบการณ์พร้อมให้คำแนะนำดูแลตลอดทุกขั้นตอน